สีทาบ้าน ในความหมายตามหลักฮวงจุ้ย

สีทาบ้าน ในความหมายตามหลักฮวงจุ้ย เมื่อมีบ้านหนึ่งหลังแน่นอนว่าการออกแบบดีไซน์บ้านให้เป็นในสไตล์ที่ตัวเองชอบ  เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก    ก็จะทำให้เราพอใจที่จะอยู่บ้านนี้มากขึ้น แต่ว่าแน่ใจหรือไม่กับการเลือกสีทาบ้านว่าเป็นไปตามฮวงจุ้ยหรือเปล่า วันนี้เรามีสีต่าง ๆ ทีให้ความเชื่อตามหลักฮวงจุ้ยอย่างไร

 

  • การเลือกสีทาบ้าน สีม่วง
  • การเลือกสีทาบ้าน สีเหลือง
  • การเลือกสีทาบ้าน สีส้ม
  • การเลือกสีทาบ้าน สีชมพู
  • การเลือกสีทาบ้าน สีขาว

บ้าน สีม่วง บางทีอาจไม่ใช่สีแรกในความนึกคิดของการเลือกลงสีบ้าน

แม้กระนั้นทราบไหมว่าการเลือกสีทาบ้านสีม่วงจะช่วยเสริมพลังในเรื่องอำนาจและก็บุญบารมี เพราะเหตุว่าตามหลักฮวงจุ้ยมั่นใจว่า สีม่วงนั้นเป็นสีที่ความมั่นคงและก็มั่นคง เหมาะกับเจ้าของบ้านที่มีธุรกิจส่วนตัวอย่างใหญ่โต เพราะเหตุว่าเป็นสีที่จะให้พลังด้านอำนาจและก็บุญบารมี นำมาซึ่งการทำให้มีแต่ว่าคนเคารพยกย่องเยอะขึ้น

สีเหลือง สีที่พลังอำนาจรวมทั้งบารมีที่ยิ่งใหญ่ ตามหลักฮวงจุ้ยมั่นใจว่า ถ้าเลือกสีทาบ้านสีเหลืองจะช่วยเสริมพลังความรุ่งเรืองให้กับเจ้าของบ้าน รวมถึงในด้านงานการแล้วก็การคลัง พูดได้ว่าเป็นสีที่สามารถช่วยเสริมให้เจ้าของบ้านทำธุรกิจได้อย่างบรรลุเป้าหมายแบบพุ่งกระฉูดกระทั่งผลักไม่อยู่กันอย่างยิ่งจริง ๆ

เลือกสีทาบ้าน สีส้ม แม้บ้านหลังไหนที่เก็บเงินไม่ค่อยอยู่ เงินหมุนเวียนเร็ว หามาเยอะแค่ไหนก็ใช้หมด ทดลองหันมาเลือกสีทาบ้านสีส้ม

เพราะเหตุว่าในทางฮวงจุ้ยมั่นใจว่าเป็นสีที่รอดึงดูดอำนาจ ความยั่งยืนและมั่นคง รวย รวมทั้งสะสมทรัพย์สินให้พอกพูนมากเพิ่มขึ้น กล่าวได้ว่าเป็นสีที่ไม่เฉพาะแต่จะมีผลให้ทรัพย์สินไหลมาเทมาแล้ว ยังช่วยคิดบัญชีเก็บทองคำได้อีกด้วย

บ้านสีชมพูเป็นสีที่บ่งถึงความละมุนละไม อ่อนน้อมรวมทั้งถ่อมตัว ซึ่งตามหลักของฮวงจุ้ยมั่นใจว่า สีชมพู เป็นสีที่ความยั่งยืนในเรื่องของความรัก ถ้าผู้ใดอยากให้มีคู่รักปรารถนา ส่งเสริมแล้วก็ช่วยเหลือเกื้อกูล ทดลองเลือกสีทาบ้านด้วยสีชมพู ก็จะช่วยเสริมพลังด้านบริวารให้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ 

มองเห็นไหมว่า แต่ละสีตามความหมายของทางฮวงจุ้ยต่างก็มีพลังงานที่แตกต่าง ด้วยเหตุนั้น หากต้องการเสริมโชคชะตาให้การงานให้ปังแล้วก็การดันให้รุ่ง ก่อนก่อสร้างบ้าน อย่าลืมที่จะหาหนังสือเรียนเลือกสีบ้านตามหลักของฮวงจุ้ย เพื่อบ้านของคุณอยู่แล้วโชคดี อยู่แล้วร่ำรวยกัน

การทำ Intermittent Fasting (IF)

Intermittent Fasting: How Interval Fasting Works

การทำ Intermittent Fasting (IF) เป็นวิธีการลดน้ำหนักและปรับเปลี่ยนระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย โดยมีรูปแบบหลักๆ คือการรับประทานอาหารในช่วงเวลาที่จำกัดหรือการโภชนาการต่อเนื่องกับช่วงเวลาการอดอาหาร นี่คือขั้นตอนทั่วไปที่คุณสามารถทำได้

 

1.เลือกวิธีการ IF:16/8 Method: รับประทานอาหารในช่วงเวลา 8 ชั่วโมงและอดอาหารในช่วงเวลา 16 ชั่วโมงที่เหลือ 5:2 Diet: รับประทานอาหารในปกติ 5 วันต่อสัปดาห์และอดอาหารหรือรับประทานอาหารที่มีพลังงานน้อยมากใน 2 วันต่อสัปดาห์

 

2.เลือกเวลาที่เหมาะสม:ควรเลือกช่วงเวลาที่สะดวกและเหมาะสมกับรูปแบบการดำเนินชีวิตของคุณ เช่น 16/8 Method อาจค่อนข้างง่ายที่จะทำในเวลากลางวันหรือเวลาเย็น

 

3.รับประทานอาหารที่เหมาะสม:ควรเลือกอาหารที่เหมาะสมและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ไม่ควรใช้ IF เป็นทางออกในการรับประทานอาหารที่ไม่สุขภาพ

 

4.รักษาการดื่มน้ำ:การดื่มน้ำมีความสำคัญในการรักษาความสดชื่นและช่วยลดความหิว ควรรับประทานน้ำเปล่าหรือเครื่องดื่มที่ไม่มีแคลอรีในช่วงเวลาที่อดอาหาร

 

5.ควบคุมพอร์ชั่นอาหาร:ควรรับประทานมื้ออาหารที่มีปริมาณพอเหมาะในช่วงเวลาที่กำหนด และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง

 

6.เซี่ยงสมาธิต่อสภาพจิต:การอดอาหารอาจทำให้รู้สึกเครียดหรือวิตกกังวล การฝึกสมาธิหรือกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายสามารถช่วยลดอาการเหล่านี้ได้

 

7.ปรับเปลี่ยนเมื่อจำเป็น:หากรู้สึกไม่สบายหรือมีปัญหาในการทำ IF ควรปรับเปลี่ยนเวลาหรือวิธีการเพื่อให้เหมาะสมกับร่างกายและสุขภาพของคุณ

 

ควรระวังและปรึกษาแพทย์หากคุณมีสุขภาพปัญหาหรือต้องการเริ่มต้นโปรแกรม IF โดยเฉพาะ

 

ถ้าทำ Intermittent Fasting (IF) สำเร็จ สิ่งที่จะเกิดขึ้น

การทำ Intermittent Fasting (IF) สำเร็จอาจมีผลกระทบต่อร่างกายและสุขภาพของคุณในหลายด้าน. นี่คือบางผลลัพธ์ที่คุณอาจจะต้องพบเมื่อทำ IF สำเร็จ

1.ลดน้ำหนัก:IF มักถูกนำมาใช้เพื่อลดน้ำหนัก โดยเฉพาะการลดไขมันส่วนเกิน. การปรับเปลี่ยนช่วงเวลาที่รับประทานอาหารสามารถช่วยลดปริมาณพลังงานที่ได้มาจากอาหาร

 

2.ปรับเปลี่ยนในระดับน้ำตาลในเลือด:IF สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและเพิ่มความไว้วางใจในการปรับความผิดปกติของน้ำตาลในเลือด

 

3.เพิ่มความต้านทานทานอาหาร:IF อาจส่งผลในการเพิ่มความต้านทานทานอาหาร และสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อหลายๆ โรคเช่น โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ

 

4.พักผ่อนของระบบย่อยอาหาร:การ IF ให้ระยะเวลาให้ร่างกายพักผ่อนจากระบบย่อยอาหาร, ซึ่งอาจช่วยลดการเกิดปัญหาเกี่ยวกับทางเดินทางอาหาร

 

5.เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง:มีหลักฐานทางวิจัยที่บ่งชี้ว่า IF อาจมีผลในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง และการเสริมสร้างปัญญา

 

6.ลดการอักเสบ:IF สามารถลดการอักเสบในร่างกาย, ซึ่งเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับหลายๆ โรคเรื้อรัง

 

7.มีประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงาน:การ IF อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญพลังงาน, ทำให้ร่างกายเลือกใช้ไขมันเป็นแหล่งพลังงานมากขึ้น

 

 

สนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟังเล็กจิ๋ว

เปิดสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังเครียดเรื้อรัง

ความเครียด เป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญที่อาจก่อให้เกิดปัญหาทางด้านสุขภาพร่างกาย เพราะหลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า การท่เรามีความเครียดมาก ๆ นั้นจะยิ่งทำให้ปัญหาสุขภาพร่างกายเกิดขึ้นได้ง่าย และยิ่งถ้าเรามีพฤติกรรมที่ทำให้เรามีความเครียดได้ง่าย

ความเครียดที่เรามีก็จะยิ่งสะสมจนเกิเป็นความเครียดเรื้อรังได้นั่นเอง ฉะนั้น การที่เราใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เครียด จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของเรา อาจจะทำให้ร่างกายไม่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาต่าง ๆ ได้

เพราะการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดี และการให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพร่างกาย เป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด

เนื่องจากคนส่วนใหญ่ในสมัยนี้มีความเสี่ยงต่อการมีความเครียดที่สะสมกันเยอะมาก ๆ ดังนั้น เพื่อประสิทธิภาพการทำงานของร่างกาย หากใครที่อยากเริ่มต้นหันมาดูแลสุขภาพร่างกาย และตรวจเช็ความเครียด ว่าตนเองมีความเครียดที่อยู่ในขั้นไหน

เพื่อที่เราจะได้ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะวันนี้เราจะพาไปดุสัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกได้ว่า คุณมีความเครียดที่เริ้มรังหรือไม่ ไปดูกันเลย 

  • อาการปวดจี๊ดตลอดทั้งวั

เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเริ่มมีอาการปวดหัว โดยเฉพาะอาการปวดหัวแบบจี๊ด ๆ ตลอดทั้งวัน แม้ว่าเราจะทานยาแล้วก็มาสามารถบรรเทาลงได้ ซึ่งอาการที่สามารถบ่งบอกได้ถึงความเครียดที่เรามี ความเครียดที่เราสะสมมาเป็นเวลานาน

จนถึงขั้นเรื้อรัง รวมไปถึงหากเรามีอาการปวดไปถึงกล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างกาย ให้รีบเข้ารับการปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยด่วนจะดีกว่า 

  • อาการนอนไม่ค่อยหลับ

หลายคนมองว่า การที่เรานอนไม่หลับ อาจเป็นเพราะการดื่มกาแฟมากเกินไป แต่รู้หรือไม่ว่า การที่เรามีอาการนอนไม่ค่อยหลับ อาจเกิดขึ้นจากความกังวล หรือความเครียดที่เรามีในหัว จนส่งผลดระทบต่อการนอนของเรานั่นเอง เพราะการที่เรามีความเครียดในหัว

นอกจากจะทำให้เรามีอาการปวดหัวแล้ว ยังอาจทำให้การนอนของเราไม่มีประสิทธิภาพ และยิ่งเรานอนไม่หลับเป็นประจำก็จะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ และสุขภาพจิตของเราได้ 

  • อาการเหงื่อไหล

รู้หรือไม่ว่า การที่เหงื่อของเราไหลออกมาโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ อาจเกิดขึ้นจากการที่เราเครียดมากเกินไป ถึงแม้ว่าทักครั้งที่เหงื่อของเราถูกขับออกมานั้นจะดูเป็นเรื่องปกติ

เพราะร่างกายของเราเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เหงื่อของเราไหลออกมาจนทำให้ตัวเหนียว อาจเป็นไปได้ว่า สถานการณ์ที่คุณกำลังเจอนั้นหนักมาก ๆ จนมีความเครียดมากขึ้นนั่นเอง อีกทั้งเรายังอาจมีอาการหายใจที่แรงมากขึ้นได้อีกด้วย 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก

เปิด 3 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำก่อนนอน

ในแต่ละวัน คนส่วนใหญ่มักที่จะมีพฤติกรรมการอดนอนกันเป็นประจำ ซึ่งรู้หรือไม่ว่า การที่เราอดนอนมาก ๆ จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อสุขภาพร่างกายของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจทำให้ร่างกายอ่อนแอ และมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่ายนั่นเอง

เพราะในสมัยนี้ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ร่างกายของเราต้องการเป็นอย่างมาก เนื่องจาการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

จะทำให้ร่างกายของเราได้พักผ่อนไปด้วย ซึ่งก็จะช่วยให้ร่างกายได้ทำการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ในระหว่างที่เรากำลังนอนหลับ จึงทำให้เราตื่นอมารู้สึกสดชื่นได้นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนในสมัยนี้ มักที่จะมีพฤติกรรมการทำร้ายสุขภาพร่างกายของตนเอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีพฤติกรรมที่มักจะทำอยู่บ่อย ๆ ก่อนเข้านอน ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวอาจจะไม่ดีต่อสุขภาพร่างกายของเราได้

ฉะนั้น สำหรับใครที่สงสัยว่า พฤติกรรมที่เรามักทำโดยไม่รู้ตัวก่อนเข้านอน จะมีพฤติกรรมไหนบ้างที่ส่งผลกเสียต่อร่างกาย วันนี้เราพาไปดูกันค่ะ 

 

  • พฤติกรรมการกินมื้อเย็น

ถึงแม้ว่าอาหารมื้อเย็น จะเป็นมื้ออาหารที่หลายคนมองข้าม และบางคนอาจจะทานกันอยู่บ่อย ๆ ซึ่งรู้หรือไม่ว่า เป็นมื้ออาหารที่เราไม่ควรที่จะทานก่อนเข้านอน เพราะอาจจะเป็นการรบกวนการนอนของเราได้ อาจจะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักเกินไป

ทำให้เรารู้สึกไม่สบายท้องได้ แต่หากเราไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ ก็ควรที่จะทานก่อนการเข้านอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง 

  • การใช้โทรศัพท์มือถือ

คนส่วนใหญ่มักที่จะมีพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือก่อนเข้านอน เพราะบางคนอาจจะนั่งเลื่อนมือถือ นั่งคุยแชท และนั่งทำงาน จึงทำให้ในบางครั้งหลายคนเพลิดเพลินไปกับการเล่นเกมือจนรบกวนการนอนได้ ฉะนั้น เพื่อสร้างสุขภาพร่างกายที่ดี ควรที่จะหยุดเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนเข้านอน

เพื่อไม่ให้คลื่อนไฟฟ้าของมือถือมารบกวนการทำงานของร่างกาย จนก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ได้ อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบต่อสมองของเราได้อีกด้วย 

  • การดื่มน้ำก่อนนอน

แน่นอนว่า การที่เราดื่มน้ำก่อนเข้านอน ถึงแม้ว่าจะทำให้ร่างกายของเราทำงานได้ดียิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็อาจส่งผลกระทงต่อการนอนของเราได้ ซึ่งก็จะทำให้เราต้องลุกไปเข้าห้องน้ำในตอนดึกได้ และอาจทำให้การพักผ่อนของเรานั้นไม่ต่อเนื่องได้ หากใครที่คิดว่ามีพฤติกรรมเหล่านี้อยู่ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยง เพื่อเป็นการรักษาสุขภาพร่างกายที่ดีให้ตนเอง อีกทั้งยังช่วยลดอาการปวดห้องน้ำของเราได้อีกด้วย

 

สนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังเล็กจิ๋ว

การเปิดร้านเสริมสวยในสหราชอาณาจักร เริ่มต้นอย่างไร

การเปิดร้านเสริมสวย ธุรกิจร้านเสริมสวย 45,000 แห่งของสหราชอาณาจักรมีรายได้ประมาณ 8 พันล้านปอนด์ในปี 2562 ตามรายงานของ National Hair & Beauty Federation ในขณะเดียวกัน ภาคส่วนนี้ได้รับการคาดการณ์ว่าจะเติบโตร้อยละ 16 ระหว่างปี 2020 ถึง 2023 คุณจะมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมที่เจริญรุ่งเรืองนี้ได้อย่างไร อ่านเคล็ดลับยอดนิยมของเราเกี่ยวกับวิธีเริ่มต้นธุรกิจความงาม

เครื่องกำเนิดชื่อธุรกิจ วิธีที่จะเป็นช่างทำผมมือถือที่ประกอบอาชีพอิสระ การจัดตั้งบริษัทจำกัดในสหราชอาณาจักร: คำแนะนำทีละขั้นตอน

ฉันต้องการประกันธุรกิจประเภทใด เลือกเส้นทางของคุณ ในฐานะเจ้าของร้านทำผม คุณมีสองทางเลือก คุณสามารถซื้อเป็นแฟรนไชส์หรือไปคนเดียวก็ได้ บริษัทต่างๆ เช่น Saks และ Toni&Guy เสนอโอกาสในการขายแฟรนไชส์ ​​โดยนำโครงสร้างองค์กรที่มีอยู่และการรับรู้แบรนด์มาสู่ตาราง

อย่างไรก็ตาม ชีวิตการเป็นแฟรนไชส์มีข้อจำกัดมากกว่า ดังนั้นหากคุณต้องการโทรนัด การเปิดร้านเสริมสวยของคุณเองจะเหมาะกับคุณมากกว่า

ไม่แน่ใจว่าตัวเลือกใดที่เหมาะกับความต้องการของคุณ? อ่านคำแนะนำเชิงลึกของเราเกี่ยวกับแฟรนไชส์และการประกอบอาชีพอิสระ การเปิดรายการตรวจสอบร้านเสริมสวย หากคุณต้องการเปิดร้านเสริมสวยของคุณเอง มีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณา ด้านล่างนี้คือภาพรวมของขั้นตอนที่คุณต้องทำ แผนธุรกิจร้านเสริมสวย สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือจัดทำแผนธุรกิจความงามเพื่อชี้แจงแนวคิดของคุณและกำหนดวัตถุประสงค์

แผนธุรกิจที่ดีจะมีข้อมูลเกี่ยวกับ ธุรกิจของคุณจะดำเนินการอย่างไร รวมถึงโครงสร้าง จุดแข็งและจุดอ่อนของคุณ

ตลาดที่คุณดำเนินธุรกิจและคู่แข่งของคุณ ทางการเงินของคุณ เช่น การพยากรณ์กระแสเงินสด อ่านคำแนะนำในการเริ่มต้นธุรกิจเพื่อดูคำแนะนำเพิ่มเติม และดาวน์โหลดเทมเพลตแผนธุรกิจฟรีของเรา ข้อกำหนดทางกฎหมายสำหรับร้านเสริมสวยในสหราชอาณาจักร เช่นเดียวกับการเปิดธุรกิจ

มีเรื่องทางกฎหมายที่คุณต้องพิจารณาเมื่อเปิดร้านเสริมสวย ตั้งแต่การเตรียมคุณให้มีคุณสมบัติที่เหมาะสม (ดูด้านล่าง) ไปจนถึงการเลือกโครงสร้างทางกฎหมายของคุณ มีการตัดสินใจที่สำคัญก่อนที่คุณจะทำการรักษาความงามครั้งแรก เป็นไปได้ว่าคุณจะต้องมีใบอนุญาตในการดำเนินการร้านเสริมสวยของคุณ ดังนั้นโปรดไปที่เครื่องมือค้นหาใบอนุญาตของ Gov.uk เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

สำหรับการค้นหาโครงสร้างทางกฎหมายที่เหมาะสมสำหรับ  เครื่องช่วยฟังราคาถูก   ธุรกิจร้านเสริมสวยของคุณ คุณจะมีตัวเลือกสี่ตัวเลือกผู้ค้ารายเดียว ห้างหุ้นส่วน ห้างหุ้นส่วนจำกัดความรับผิด บริษัทจำกัด ต้องการความช่วยเหลือในการรับมือกับความแตกต่างหรือไม่?

คำแนะนำของเราเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างผู้ค้ารายเดียวและบริษัทจำกัดและการจัดตั้งหุ้นส่วนธุรกิจอธิบาย

ข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธี คุณจะต้องประกันธุรกิจร้านเสริมสวยของคุณด้วย ไปที่หน้าประกันร้านทำผมเพื่อดูข้อมูลเกี่ยวกับประเภทความคุ้มครองที่คุณอาจต้องการ รวมถึงประกันความรับผิดของนายจ้างหากคุณจ้างพนักงาน

หากคุณตัดสินใจที่จะให้บริการทรีตเมนต์ต่างๆ ที่ร้านทำผม คุณอาจต้องทำประกันเพิ่มเติม เช่น ประกันความงามประกันช่างทำเล็บ ประกันร้านทำเล็บ ประกันภัยเส้นผมและความงาม ประกันการนวด ประกันช่างเสริมสวยเคลื่อนที่

ผลิตภัณฑ์ย้อมสีผม

ผลิตภัณฑ์ย้อมสีผม เรื่องราวที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้  ก็คงจะเป็นอะไรที่หนีไม่พ้นเกี่ยวกับช่วงยุค covid-19 นี้เท่าไหร่ covid ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป 

การใช้ชีวิตการทำงานด้วยเช่นเดียวกันซึ่งในวันนี้เรื่องราวที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก  เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ย้อมสีผมสินค้าขายดีในช่วงยุค 19  ที่ผ่านมาเรื่องราวดังกล่าวจะมีความน่าสนใจมากน้อยแค่ไหน  แล้วทำไมเราถึงต้องซื้อผลิตภัณฑ์ย้อมสีผม เราไปทำความรู้จักและศึกษามันพร้อมกันเลยดีกว่า

สถานการณ์ในยุคปัจจุบันนี้แน่นอนว่า  มันทำให้วิถีชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตามสำหรับเรื่องราวที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก  ในวันนี้มันเป็นสินค้าขายดีในช่วงยุคโควิด-19 แน่นอนว่าการที่เราจะต้องกักตัวอยู่บ้าน Shopping  ออนไลน์ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งหรือว่าอีกหนึ่งกิจกรรมที่ใครหลายๆคนต่างก็ชอบทำเป็นอย่างมาก 

และสิ่งหนึ่งเลยที่ทุกคนมักจะ Shopping  หรือว่าซื้อหากันก็คงจะเป็นผลิตภัณฑ์ย้อมสีผมอย่างแน่นอน  เมื่อร้านทำผมปิดต้องงดให้บริการตามมาตรการรักษาความปลอดภัย  มีช่างตัดผมมือใหม่แต่หน้าเก่า  ทำให้สมาชิกในครอบครัวต้องหันมาทำหน้าที่นี้แทนช่างตัดผม และทำให้แบตเตอร์เลี่ยนขายดิบขายดีในบ้านเรา  และอีกหนึ่งสินค้าในหมวดเกี่ยวเนื่องกัน 

ที่มียอดขายเติบโตอย่างมากก็คือผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม  ไม่ว่าจะเป็นแบบโฟม แบบครีม  แบบสระ  แบบหมัก แน่นอนกับผู้หญิง  ไม่มีวันหยุดสวย สามารถก้าวทันแฟชั่นเปลี่ยนสีผมได้อยู่เสมอ  แม้จะต้องกักตัวอยู่กับบ้านก็ตาม  แล้วคุณละซื้อสินค้าหรือผลิตภัณฑ์อะไรใหม่ๆ เพื่อสร้างสีสันให้กับการกลับตัว  หรือต้องอยู่บ้านนานๆกันบ้างลองเล่าสู่กันฟังบ้างนะ  

อย่างไรก็ตามนอกจากผลิตภัณฑ์ย้อมสีผม  ที่เราได้กล่าวไปข้างต้นแล้วมันก็ยังมีผลิตภัณฑ์หรือว่าสิ่งอื่นอีกมากมาย 

ที่ผู้คนนิยมซื้อหรือว่า Shopping ผ่านระบบออนไลน์สำหรับในยุคปัจจุบันนี้ที่ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน  เพราะว่าการอยู่บ้านเฉยๆมันก็คงจะน่าเบื่อไปหน่อย  การที่เราได้หาซื้อของเล่นใหม่ๆมาเพิ่มสีสันให้กับการกักตัวอยู่บ้าน  ก็คงจะเป็นอะไรที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว  อย่างเช่นเรื่องราวที่เราที่กล่าวไปข้างต้น 

เกี่ยวกับการทำสีผมก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เชื่อได้เลยว่า  ทุกคนต่างก็เพราะจำเป็นอย่างมากสำหรับในยุคปัจจุบันนี้   อย่างไรก็ตามนอกจากผลิตภัณฑ์ย้อมสีผม  แล้วก็ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เชื่อได้เลยว่าคนก็กำลังเล็งอยู่ว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อดี

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟัง ดิจิตอล

เมาแอลกอฮอล์กับร่างกายของเรา

เมาแอลกอฮอล์กับร่างกายของเรา สำหรับสุขภาพร่างกายของมนุษย์นั้น เป็นสิ่งที่เราควรจะดูแลรักษาให้เป็นอย่างดี เพราะไม่เช่นนั้นแล้วก็เมื่อร่างกายของเราจะอ่อนแอลง หลายสิ่งหลายอย่างที่จะตามมา มันก็ทำให้ประสิทธิภาพในระบบต่างๆของร่างกายเรานั้น

  ทำงานได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก ซึ่งเรื่องราวที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันที่มันมีชื่อว่า เมาแอลกอฮอล์กับร่างกายของเรา  ซึ่งมันจะเป็นอย่างไรและน่าสนใจมากน้อยแค่ไหนเราไปทำความรู้จักมันพร้อมกัน  เชื่อได้เลยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

มีหลายสิ่งหลายอย่างต่างๆมากมาย  ที่เราอยากนำเสนอให้ทุกคนได้รับสู่กัน เป็นอย่างมากเลยทีเดียวทุกคนในนี้เคยได้ยินเรื่องราวของแอลกอฮอล์มามากมาย

  นับไม่ถ้วน alcohol นั้นมีทั้ง alcohol ที่สามารถดื่มได้กินได้  แล้วก็มีแอลกอฮอล์ที่เราไว้ใช้ทำแผล ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้มันก็คือ alcohol เหมือนกันแต่ปริมาณแอลกอฮอล์นั้นแตกต่างกันออกไป แล้วก็ของที่สามารถกินได้  มันก็มีเปอร์เซ็นต์ต่างกัน  อย่างไรก็ตามในวันนี้สิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงเป็นเรื่องราวของร่างกายของเรา  และแอลกอฮอล์โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆได้แก่ alcohol 

ที่ได้มาจากกระบวนการทางปิโตรเคมี ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ และ alcohol  ที่ได้มาจากการหมักพืชผลทางการเกษตร ซึ่งเป็น alcohol ที่มนุษย์สามารถดื่มเข้าไปได้  เราจะพบเห็นได้ในเครื่องดื่มมึนเมา แต่จะแตกต่างกันที่ปริมาณที่ใส่ลงไป ตั้งแต่ 4 เปอร์เซ็นต์     ถึง 50%  และหากเมื่อใดที่มีการดื่ม alcohol เข้าไป 

ระดับแอลกอฮอล์ที่เข้าสู่ร่างกาย มันก็จะส่งผลต่อระบบประสาทของเรา หากรับเข้ามาเป็นปริมาณเพียงเล็กน้อย  มันก็จะทำให้ร่างกายของเราตื่นตัว 

แต่หากเรารับ alcohol เข้ามาในปริมาณมากและต่อเนื่อง  มันก็จะส่งผลต่อการทำงานของสมองในหลายด้าน  ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ช้าลง  การประมวลผลช้าลง  การตอบสนองต่อสิ่งต่างๆจะช้าลง  การควบคุมอารมณ์ไม่ได้  เสียการทรงตัว เป็นต้น ซึ่งโดยรวมแล้วเรียกว่าเมานั้นเอง  นอกจากเรื่องราวของแอลกอฮอล์ ก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมายเกี่ยวกับร่างกายของมนุษย์เรา  สุขภาพร่างกายเป็นสิ่งที่เราควรจะคำนึงถึง เป็นอันดับแรก  แน่นอนว่าการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากนั้น  เป็นสิ่งที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก

  เพราะว่ามันจะ มีผลกระทบต่างๆมากมายตามมา  อย่างไรก็ตามผลกระทบที่เกิดขึ้นจากแอลกอฮอล์นั้น  มันมีอะไรบ้างคุณ  ก็ลองศึกษาดู แล้วก็ใช่ว่ามีแต่โทษอย่างเดียวเพราะว่ามันก็มีประโยชน์ด้วย  ถ้าหากว่าเราดื่ม alcohol มันในปริมาณที่เหมาะสม จากงานวิจัย ก็พบว่า ให้ประโยชน์กับร่างกายได้เช่นเดียวกัน

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังฟรี

การระบาดครั้งใหญ่ของไข้ทรพิษ

เรื่องราวที่เรากำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้นั้น เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดโรคระบาดนั้นมีอยู่มากมายหลากหลายรูปแบบ

ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาดที่เกิดขึ้นในสัตว์หรือแม้แต่มนุษย์ก็ตาม  แต่ในวันนี้สิ่งที่เรา กำลังจะพาทุกคนไปทำความรู้จักในวันนี้นั้น เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ แต่ทว่าโรคดังกล่าวได้หายไปจากโลกของเราแล้วเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งมันคือโรคอะไรไปทำความรู้จักกันเลย 

เรื่องราวของโรคระบาดนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาบนโลกมานานมากแล้ว แต่โรคระบาดที่มีการระบาดทั่วโลกของเราในแต่ละครั้ง ก็มีความแตกต่างกันออกไปแต่มันก็สามารถติดเชื้อกันได้อย่างง่ายดาย  ซึ่งโรคดังกล่าวก็คือไข้ทรพิษนั้นเอง ไข้ทรพิษหรือที่ชื่อว่าโรคฝีดาษ  มีการระบาดใหญ่อยู่หลายครั้ง

การระบาดครั้งใหญ่ของไข้ทรพิษ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ไข้ทรพิษยังเป็นหนึ่งในโรคระบาดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตทั้งหมดอย่างน้อย 350 ล้านคน

โดยมีการบันทึกไว้ว่าเกิดขึ้นครั้งแรก  เมื่อปีคริสต์ศักราช 1520   ซึ่งทำให้อาณาจักรแอซเท็กล่มสลายลง  จากการแพร่ระบาดของโรคนี้ จากสาเหตุการเดินเรือของกองเรือสเปนมายังโลกใหม่ในอารยธรรมเมโสโปเตเมียริกาทวีปอเมริกาใต้  จึงทำให้ชนพื้นเมืองต้องเสียชีวิตไป    ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากโรคไข้ทรพิษที่ติดเข้ามากับทหารและทาสชาวแอฟริกัน

  ไข้ทรพิษจะทำให้เกิดตุ่มน้ำขึ้นทั่วร่างกายจนถึงขั้นเป็นแผลและถึงขั้นเสียชีวิต  ในช่วงที่มีอาการรุนแรงที่สุดการแพร่กระจายของโรคนี้สามารถติดต่อจากคนสู่คนได้โดยง่าย  ด้วยสารคัดหลั่งที่ออกมาจากจมูกปากหรือแผลของผู้ที่ติดเชื้อราเชื้อไวรัสของโรคนี้ สามารถทนต่อสภาพอากาศทั้งร้อนและหนาวได้อีกด้วย ไข้ทรพิษได้กินเวลามาอย่างยาวนานในการแพร่ระบาดเกือบ 200 ปี

จนกระทั่งความพยายามของวงการวิทยาศาสตร์ ทำให้สามารถคิดค้นวัคซีนได้สำเร็จในปี 1793  จนทำให้ไข้ทรพิษได้หมดไปจากโลกนี้  จึงถือได้ว่าไข้ทรพิษเป็นโรคระบาด      ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ชนิดเดียว  ที่สามารถกำจัดให้หมดไปได้โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์  จึงเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของมวลมนุษยชาติ 

นอกจากเรื่องราวของการระบาดของไข้ทรพิษที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้วในอดีตที่ผ่านมาก็ได้มีการระบาดครั้งยิ่งใหญ่ของโรคต่างๆมากมาย  ซึ่งหลายคนเองก็ยังไม่เคยได้รับรู้มาก่อนอย่างไรก็ตาม  ถ้าคุณอยากรู้เรื่องราวเหล่านี้ก็ลองศึกษาเพิ่มเติมดูได้ ทุกอย่างเกิดจากการศึกษาทั้งหมดก็จะเป็นข้อมูลสู่การป้องกันนั่นเอง

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  เครื่องช่วยฟังคนหูหนวก

โรคกระเพาะอาหาร

โรคกระเพาะอาหาร วันนี้ผู้เขียน นำเสนอเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร กระเพาะคนเราเปรียบเสมือนยุ้งข้าวเมื่อกินเข้าไปก็จะเก็บไว้ในยุ้งข้าวกระเพาะอาหารก็จะทำหน้าที่ย่อยอาหารทุกชนิดส่วนมากคนหนุ่มคนสาวป่วยเป็นโรคยอดนิยมกันเยอะก็คือโรคกระเพาะ

โรคกระเพาะในความหมายของหมอหมายถึงอาการปวดบริเวณช่วงล่างใต้สะดือส่วนมากจะเกิดขึ้นหลังจากกินอาหารบางคนจะรู้สึกว่าเหมือนอาหารไม่ย่อยรู้สึกแน่นจุกเสียด จริงๆแล้วมันเกิดแผลบนเยื่อบุอาหารหรือลำไส้ตอนบนอาการของโรคกระเพาะอักเสบผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องเจ็บบริเวณสะดือส่วนมากจะเป็นเวลากินข้าวหรือหลังกินข้าวอาการแทรกซ้อนก็คือคลื่นไส้ เบื่ออาหาร อาเจียนเป็นเลือดติดต่อกันหลายวันบางคนรุนแรงมากอาจจะมีอาการของเลือดออกในกระเพาะทำให้อาเจียนเป็นเลือดได้โรคมะเร็งในกระเพาะอาหารส่วนมากจะไม่รู้ตัว

ในระยะแรกพอเริ่มเป็นนิดหน่อยก็จะรู้สึกว่าไม่สบายตัวแน่นหน้าอกปวดท้องเวลากินอาหารทุกครั้งแล้วคลื่นไส้อาเจียนเป็นเลือด มีเลือดออกในกระเพาะอาหารที่สำคัญเลยอาการของผู้ป่วยจะซูบผอมและน้ำหนักลดอย่างรวดเร็วปัจจัยเสี่ยงอาหารเป็นพิษกินอาหารที่มีเชื้อโรคปนอยู่เช่นกินพวกสารเก็บรักษาอาหารหรือยาฆ่าแมลงที่ติดมากับผักผลไม้ ยาบางชนิดมีฤทธิ์กัดกร่อนเยื่อบุผนังมีผลทำให้กระดูกอักเสบ ประเภทยาแอสไพรินทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ สุรามีฤทธ์กัดกร่อนเยื่อบุกระเพาะ ถ้าดื่มประจำโดยที่ไม่กินอาหารเข้าไปจะทำให้เกิดกระเพาะอักเสบเฉียบพลัน

บุหรี่ยิ่งสูบมากและนานเท่าไหร่ที่มีโอกาสเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหารและอาจจะลุกลามต่อไปเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร รสเผ็ดจัดหลายคนชอบกินเผ็ดชอบเติมพริกลงไปในเครื่องปรุงหลังจากกินอาหารแล้วจะรู้สึกแสบท้องกินอาหารไม่ตรงเวลาส่วนมากจะเกิดขึ้นกับพนักงานบริษัทพวกหนุ่มสาวต้องรอทำงานเสร็จผ่านเวลาไปหลายชั่วโมงแล้วค่อยมากินซึ่งกินไม่ตรงเวลาจะทำให้กระเพาะขับน้ำย่อยลงในกระเพาะแล้วก็เกิดเป็นแผลได้เพราะว่ากระเพาะอาหารจะต้านทานกรดไม่ไหวเกิดอักเสบและเป็นแผลความเครียดความกังวลความเครียดความทุกข์ความกังวลก็ทำให้เป็นโรคกระเพาะได้

 

การรักษาส่วนใหญ่จะทำควบคู่ไปกับการควบคุมการกินอาหารปรับกิจวัตรประจำวัน กินอาหารให้ตรงเวลาแล้วก็รับประทานคู่กับยาที่หมอสั่ง

 การป้องกันและการดูแลเบื้องต้น

1 กินอาหารมีประโยชน์ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่พอเหมาะ 

2 ปรุงอาหารให้สุกก่อนกินรสชาติไม่ควรรสจัดเกินไปเกินไป 

3 เลี่ยงอาหารที่มีส่วนผสมของผงชูรสสีสารกันบูด 

4 อย่ากินอาหารในปริมาณที่มากและเร็วเกินไปเคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พวกน้ำอัดลม บุหรี่

5ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอไม่ควรหักโหม 

6 ทำจิตใจให้สบายผ่อนคลายจากความเครียดโรคกระเพาะเป็นโรคที่ไม่น่ากลัวนะแค่ทุกคนทานอาหารให้ตรงเวลา

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย. เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก

3 อาหารบำรุงสมองช่วยทำให้ความจำดีขึ้น

อาหารบำรุงสมอง คนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ใช้งานสมองอย่างหนักและปล่อยละเลยการดูแลสมองกันเป็นประจำซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เราปล่อยละเลยการดูแลสมองอาจทำให้ความจำของเรานั้นเสื่อมลงได้ อีกทั้งยังทำให้ร่างกายของเรานั้นมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายต่างๆได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เนื่องจากการใช้ชีวิตของคนในสมัยปัจจุบันนี้เต็มไปด้วยการทำงานและการใช้ชีวิต

ซึ่งการทำงานในแต่ละครั้งนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้สมองอย่างหนักเพื่อคิดวิเคราะห์หรือวางแผนในสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ดังนั้น การดูแลสมองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามยิ่งถ้าใครที่อยากมีความจำที่ดีมากยิ่งขึ้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกแต่สารอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองโดยเฉพาะ เพื่อให้สมองและความจำของเรานั้นดื่มได้มากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม สมัยปัจจุบันนี้การดูแลบำรุงสมองก็สามารถทำได้หลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีหรืออาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและทำให้ความจำนั้นดีมากยิ่งขึ้น วันนี้เราก็จะมาแนะนำอาหาร ที่หากเรารับประทานเป็นประจำรับรองได้เลยว่าจะยิ่งทำให้ความจำของเราดีขึ้นอีกทั้งยังทำให้สมองของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

1.สตรอเบอรี่ เป็นหนึ่งในผลไม้ที่หลายๆคนชื่นชอบเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าจะมีราคาที่ค่อนข้างแพงก็ตาม เนื่องจากเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเป็นเอกลักษณ์อีกทั้งยังมีประโยชน์จึงทำให้คนส่วนใหญ่นิยมทาน ซึ่งรู้หรือไม่ว่าสตรอเบอรี่เป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและทำให้ความจำของเรานั้นดีขึ้นได้ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการป้องกันสมองของเราไม่ให้ได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้อีกด้วย

 

1.ปวยเล้ง รู้หรือไม่ว่าผักชนิดนี้เป็นผักที่ดีต่อสุขภาพของเราเป็นอย่างมาก เพราะเป็นผักที่อุดมไปแวยสารต้านอนุมูลอิสระในตระกูลแคโรทีนอยด์ อีกทั้งยังมีเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดการภาวะสมองเสื่อมใอเราอายุมากขึ้นได้อีกด้วย รับรองได้เลยว่าหากใครที่อยากบำรุงสมองและทำให้ความจำดีขึ้นการทานปวยเล้งเป็นประจำช่วยได้อย่างแน่นอน

1.อะโวคาโด เป็นหนึ่งในผลไม้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการลดน้ำหนักเป็นอย่างมากเนื่องจากในอะโวคาโดนั้นจะอุดมไปด้วยกรดไขมันดีซึ่งถือเป็นกรดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มากแต่รู้หรือไม่ว่าอะโวคาโดก็เป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสมองและช่วยทำให้ความจำของเราดีขึ้นได้ นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยในการยับยั้งการอักเสบ ช่วยป้องกันสมองของเราไม่ให้มีอาการหลงลืมได้ง่ายอีกด้วย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย. เครื่องช่วยฟังที่เสียงรบกวนน้อยที่สุด