สปอร์ยหนัง Buffy the vampire slayer3

บัฟฟี่ได้ไปโรงเรียนเหมือนปกติทุกวันแต่มีความผิดปกติคือเพื่อนในกลุ่มของธอนั้นเหมือนไม่ค่อนจะอยากคุยกับเธอเพราะว่าบัฟฟี่นั้นชอบโดดเรียนและโดซ้อมเต้นอยู่บ่อยครั้งเธอจึงถูกเพื่อนทิ้งไปกับหมดและตกดึกบัฟฟี่ได้บอกไพร์ว่าวันนี้นั้นบัฟฟี่จะไปอยู่กับเพื่อนเพื่อปาร์ตี้ที่โรงเรียนทำให้เธอนั้นไม่สามารถไปออกล่าแวมไพร์ได้ในคืนนี้ทำให้ไพรน์นั้นไม่เก็นด้วยกับบัฟฟี่ เพราะไพน์คิดว่าการออกไปล่าแวมไพร์นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าการไปปาร์ตี้ของบัฟฟี่

ตัดมาที่ฝั่งของแวมไพร์ หัวหน้าของแวมไพร์ก็ได้รู้ว่าคืนนี้บัฟฟี่จะไปปาร์ตี้แวมไพร์ทั้งสองจึงได้วางแผนกันเพื่อนจะไปจัดการกับบัฟฟี่ที่ปาร์ตี้นั่นเอง และเมื่อบัฟฟี่ไปถึงงานปาร์ตี้เธอก็ได้เดินเข้าไปเพื่อตามหาเพื่อนและแฟนของเธอ ก็ทำให้เธอได้อึ้งกับสิ่งที่เห็นดดยบัฟฟี่เห็นว่าแฟนของเธอนั้นกำลังกิ๊กกันกับเพื่อนของเธออีกคนหนึ่ง และจากนั้นไพน์ก็โผล่เข้ามาร่วมงานและมาเพื่อหาบัฟฟี่และเขาสองคนก็เต้นรำกันทำให้เพื่อนๆและแฟนของบัฟฟี่นั้นอึ้งไปเลยเช่นกัน 

ไม่นานก็มีแวมไพร์หลายตัวโผล่มาที่งานปาร์ตี้ ไพน์ได้นำกระเป๋าที่ใส่ลิ่มไม้ที่เตนียมมาออกมาให้กับบัฟฟี่และบัฟฟี่ก็ได้ทำการล่อแวมไพร์ออกไปข้างนอกเพื่อต่อสู้และไพน์เป็นคนที่ดุแลสถานในการณ์อยู่ในงานปาร์ตี้เมื่อต่อสู้กับเหล่าแวมไพร์นั้น แวมไพร์สองตัวก็โผล่มาและบัฟฟี่ได้ทำหารฆ่าแวมไพร์ได้หนึ่งตัวก่อนอย่างง่ายดายและจากนั้นก็ไปต่อสู้กับแวมไพร์ที่เหลืออยู่อีกหนึ่ง

แวมไพน์พยายามที่จะสะกดจิตบัฟฟี่อีกครั้งแต่ครั้งนี้นั้นแวมไพน์ไม่สามารถสะกดจิตบัฟฟี่ได้อีกแล้ว เมื่อบัฟฟี่ได้จังหวะก็หยิบไม้กางเขนขึ้นมาและพ่นสปร์ไฟไปยังไม้กางเขนและโดนตัวแวมไพร์จนตัวของมันนั้นถูกไฟไหม้ไปหมดและตัดมาที่ฉากงนปาร์ตี้ แวมไพร์ทั้งหมดที่อยู่ในงานก็ได้ตายไปหมดแล้ว

และจากนั้นแวมไพร์ที่ถูกไฟไหม้นั้นก็ได้โผลกลับเข้ามาในงานพร้อมกับมีดยาซามูไรมาด้วยหนึ่งเล่มและบัฟฟี่ก็ได้ต่อสู้กับแวมไพร์อย่างเมามันและเธอก็ได้ต่อสู้กับแวมไพร์และดาบซามูไนด้วยการใช้เก้าอี้ และในจังหวะที่ดาบซามูไรนั้นฟันไปที่เก้าอี้ทำให้ขาเก้าอี้หักและบัฟฟี่ได้ใช้ขาเก้าอี้ที่หักนั้นแทงเข้าไปกลางหน้าอกของแวมไพร์ตัวนั้น

จนตายในที่สุด และคนในปาร์ตี้ก็ดีใจอย่างมากที่บัฟฟี่สามารถจัดการกับเหล่าแวมไพร์ได้ และจากนั้นไพน์และบัฟฟี่ก็เต้นรำกันและแสดงความรักต่อกันด้วย สำหรับหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่สนุกสนานและให้ความติ่นเต้นในแต่ละฉากมากจึงเป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่คอหนังเกี่ยวกับแวมไพร์ไม่ควรพลาด

 

สนับสนุนโดย    แทงหวยออนไลน์ไทย

วงTrinity คุณภาพที่ไม่ถูกจำกัดแค่คำว่า บอยแบรนด์

เชื่อว่าใครหลายคนคงเคยปรามาสบอยแบรนด์ไทยว่าขายได้แค่หน้าตาดี ไม่มีความสามารถเท่าไร แต่คงไม่ใช่กับวงนี้ “Trinity” วงบอยแบรนด์ไทยน้องใหม่ สังกัดค่าย 4NOLOGUE ซึ่งเป็นบริษัทเอนเตอร์เทนเมนท์ครบวงจร ต้องบอกเลยว่าคุณภาพของวงนี้เกินความคาดหมายจริงๆ เพราะศักยภาพของสมาชิกทุกคนในวงล้วนคับแก้วมาก

เหมือนเพชรที่ถูกเจียระไนมาอย่างดี วันนี้พวกเขาพร้อมมาเปล่งประกายให้ทุกคนได้เห็นถึงความสามารถอันเป็นเลิศในทุกด้านของพวกเขา เรามาทำความรู้จักพวกเขากันดีกว่าว่าในวงมีสมาชิกเป็นใครบ้าง

  1. “แจ๊คกี้” จักริน กังวานเกียรติชัย 

หนุ่มน้อยวัย 19 ปี ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาที่น่ารักแต่ยังพ่วงความสามารถในด้านการร้องเพลงและการเต้นมาอย่างเต็มที่ความสามารถของแจ๊คกี้นั้นเกินต้านทานมาก ด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะน่าหลงใหลของเขา บวกกับทักษะการร้องเพลงที่มีลูกเล่นอย่างหลากหลายแล้วนั้นสาวๆคนไหนเผลอไปได้ยินเข้าเป็นต้องอ่อนระทวยกันทุกราย นอกจากนี้แจ๊คกี้ยังมีทักษะในการอ่านทำนองเสนาะ เล่นร้องเพลงอย่างมีลูกเอื้อนที่ใครได้ฟังต่างก็ต้องพากันตกใจในความสามารถของแจ๊คกี้จากการไปออกรายการแข่งขันร้องเพลง The mask วรรณคดีไทย ในนาม “หน้ากากหลวิชัยคาวี” ซึ่งแจ๊คกี้เป็น “หน้ากากคาวี” คู่กับปอร์เช่ ศิวกร อดุลสุทธิกุล สมาชิกในวงเดียวกัน

ที่เป็น “หน้ากากหลวิชัย” ภายใต้หน้ากากคาวีนั้นแทบไม่มีใครคาดถึงเลยว่าเจ้าของเสียงและทักษะด้านการร้องเพลงที่ดีขนาดที่คว้าแชมป์จากรายการ The mask วรรณคดีไทยมาครอบครองได้นั้นจะเป็นแจ๊คกี้ เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ที่ความสามารถเกินตัวอย่างมาก นอกจากการร้องเพลง แจ๊คกี้ก็ยังมีความสามารถในด้านการแสดงอีกด้วย แจ๊คกี้เริ่มเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงจากการรับบท “เต้ย” ในในละครเลือดข้นคนจาง และรับบท “เม่น” ในซีรี่ส์เรื่อง Great Men Academy สุภาพบุรุษสุดที่เลิฟของช่องวัน ถ้าใครอยากรู้ว่าความสามารถของแจ๊คกี้ดีขนาดไหนต้องไปหารับชมกัน แล้วระวังหัวใจคุณไว่ให้ดีๆ ระวังจะตกหลุมรักเด็กน้อยวัย 19 ปีคนนี้ 

2.”ปอร์เช่” ศิวกร อดุลสุทธิกุล

หนุ่มแร็พพ่นไฟประจำวง ปอร์เช่ มาพร้อมกับความสามารถในการแร็พ แร็พเป็นพ่นไฟชนิดที่ทุกคนไม่เคยมีใครคาดคิดว่าความสามารถของปอร์เช่จะดีขนาดนี้ ไม่ได้เพียงแต่แร็พได้อย่างเดียว แต่ปอร์เช่ยังร้องเพลงได้ไพเราะอีกด้วย ศักยภาพเหล่านี้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาคนอื่นก็เมื่อปอร์เช่นำไปแสดงออกผ่านรายการ The mask วรรณคดีไทย ในนาม “หน้ากากหลวิชัยคาวี” ซึ่งปอร์เช่เป็น “หน้ากากหลวิชัย” คู่กับแจ๊คกี้ จักริน กังวานเกียรติชัย สมาชิกในวงเดียวกัน ที่เป็น “หน้ากากคาวี”

และจากความสามารถในการร้อง การแร็พ การเต้นของปอร์เช่และแจ๊คกี้นั้น ก็สามารถทำให้คว้าแชมป์จากรายการ The mask วรรณคดีไทยมาได้ ในตอนแรกแทบไม่มีใครคาดถึงเลยว่าภายใต้หน้ากากหลวิชัยนั้นจะเป็นปอร์เช่ เพราะศักยภาพและความสามรถของนั้นอยู่ในระดับที่ดีจนทุกคนต่างแปลกประหลาดใจมาก เรียกได้ว่าสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทุกคนก็เลยก็ว่าได้ ส่วนด้านการแสดงปอร์เช่ก็แสดงฝีมือได้ดี จากการรับบทเป็น “ก๋วยเตี๋ยว” จากละคร เลือดข้นคนจาง และ “กู๊ด” จากซีรี่ส์เรื่อง Great Men Academy สุภาพบุรุษสุดที่เลิฟ

  1. “เติร์ด” ลภัส งามเชวง

หลายคนอาจจะเคยเห็นความสามารถของเติร์ดกันมาบ้างแล้ว เพราะเติร์ดเคยเป็นหนึ่งในนักร้องที่อยู่สังกัดค่าย KAMIKAZE ค่ายเพลงขวัญใจวัยรุ่น มาจนถึงวันนี้ความสามารถในด้านการร้องเพลงของเติร์ดก็ยังทำได้ดี ส่วนด้านการเต้นก็ไม่เป็นรองใคร เสียงของเติร์ดช่างเป็นเสียงที่อ่อนหวานนุ่มนวลจนชวนน่าหลงใหล หากใครอยากรู้ว่าความสามารถในด้านการร้องเพลงของเติร์ดดีจริงแค่ไหน

สามารถไปติดตามย้อนดู MVเก่าๆของเติร์ดได้ และล่าสุดเติร์ดได้ไปออกรายการThe mask งานวัด ในนาม “หน้ากากดอกไม้ไฟ” เติร์ดไม่ได้มีเสน่ห์แค่การร้องเพลงแต่ยังแสดงละครได้ดีอีกด้วย โดยเติร์ดฝากฝีมือการแสดงไว้กับการรับบท “เต๋า” ในละครเลือดข้นคนจาและรับบท “นิวเคลียร์” จากซีรี่ส์เรื่อง Great Men Academy สุภาพบุรุษสุดที่เลิฟ 

  1. “เจมส์” ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ

ไม่มีใครไม่รู้จักหนุ่มคนนี้ เจมส์ ธีรดนย์ หรือเจมส์มี่เจมส์ เขาเป็นนักแสดงชั้นเยี่ยมที่ฝากฝีมืองานแสดงไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการรับบท “ซัน” ในซีรี่ส์ในวัยรุ่นขึ้นชื่อที่ร้อนแรงที่สุดอย่าง ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น ซีซั่น 2 รับบท “บู” เด็กหนุ่มที่ป่วยด้วยโรคซึมเศร้า ใน Project S The series (ตอน S.O.S Skate ซึมซ่าส์) รับบท “เวกัส” ในละครเลือดข้นคนจาง รับบท “เลิฟ (ร่างผู้ชาย)” ในซีรี่ส์เรื่อง Great Men Academy สุภาพบุรุษสุดที่เลิฟ ซึ่งเรื่องนี้เจมส์ก็ฝากฝีมือการแสสดงเป็นเด็กผู้หญิงในร่างผู้ชายได้อย่างดีมาก อีกทั้งเจมส์ยังได้ฝากฝีมือด้านการแสดงไว้กับภาพยนตร์ที่สะท้อนวงการศึกษาไทยอย่างภาพยนตร์เรื่องฉลาดเกมส์โกง โดยเจมส์รับบทเป็น “พัฒน์” เรียกได้ว่าด้านฝีมือการแสดงของเจมส์เราได้เห็นกันมาอย่างมากมายแล้ว

ว่าเจมส์ฝีมือดีแค่ไหน แต่ที่ยังไม่มีใครรู้คือมีเจมส์มีความสามารถในการแร็พและการร้องเพลง ทุกคนแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อเจมส์ได้ไปแสดงฝีมือด้านการร้อง โดยการไปออกรายการ The mask งานวัด ในนาม “หน้ากากลูกโป่งสวรรค์”

มาถึงตอนนี้แล้วใครหลายคนที่เคยปรามาส ดูถูกความสามารถของบอยแบรนด์ไทยว่าขายแค่หน้าตานั้นเกินจะต้องลบความคิดนั้นออกไปก่อน เพราะทั้ง 4 คนนี้ ความสามารถและศักยภาพของเขานั้นเกินขีดจำกัดมาก และพวกเขาไม่สมควรที่จะถูกใครปรามาส หรือสบประมาท เพราะพวกเขาได้แสดงออกมาให้เราได้เห็นแล้วว่าพวกเขามีความสามารถแค่ไหน ทั้งนี้ไม่ใช่แต่เพียงวงTrinity เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงวงอื่นๆ หรือศิลปิน นักร้องท่านอื่นอีกด้วย เราไม่มีสิทธิ์จะไปตัดสินใคร เราควรให้เขาได้พิสูจน์ความสามารถก่อน หากเรายังไม่เคยได้เห็นความสามารถของเขาเราจะไปตัดสินเขาเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้

 

สนับสนุนโดย    แทงหวยฮานอย

การเรียนออนไลน์มีประโยชน์หรือไม่

ในมุมมองของการเรียนออนไลน์ถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบแบบแรกคือมองว่าการเรียนออนไลน์นั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยเป็นเพียงแค่การที่คุณครูนั้นจะอัดวีดีโอและส่งมาให้กับเด็กๆเด็กๆนั้นทำการดูคลิปและตอบคำถามที่คุณครูได้ส่งมาให้กับเราโดยไม่เปิดเทอมแล้วก็ต้องเอาคำตอบนั้นไปตอบกับคุณครู

โดยในแง่มุมนี้นั้นมองว่ามันไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยเพราะอาจจะมีผู้ปกครองบางคนที่มีปัญหา ตัวที่ไม่สามารถที่จะให้เด็กๆ เล่นคอมได้และถ้าหากว่าผู้ปกครองมีคอมให้เด็กๆคุณครูก็ไม่อาจที่จะรับประกันได้ว่าอยากเจ็บนั้นจะตั้งใจทำงานให้กับคุณครูหรือเปล่า

คุณครูนั้นไม่ได้ทำการโทรแบบเห็นหน้ากับเด็กๆดังนั้นจึงไม่อาจที่จะรู้ได้ว่าเด็กๆได้เรียนกับเราหรือไม่สิ่งที่รู้ได้เพียงอย่างเดียวนั่นก็คือรอเวลาที่เด็กๆจะส่งงานมาให้ แต่อีกมุมมองนึงก็มองว่าการเรียนออนไลน์นั้นเป็นประโยชน์ต่อเด็กๆ

เพราะจะทำให้พวกเขานั้น ได้มีการจดจำและเรียนรู้หลักสูตรต่อไปเรื่อยๆเพราะคิดว่าหากปล่อยให้เด็กๆนั้นจำเป็นที่จะต้องอยู่บ้านเล่นเกมเล่นนู่นเล่นนี่ในบ้านของตัวเองโดยไม่ฝึกทักษะอะไรเลยแน่นอนว่าถึงแม้ว่าคุณครูจะบอกเด็กๆว่าเมื่อกลับไปถึงบ้านให้ตั้งใจเรียนและเอาจริงๆแล้วหากเด็กๆกลับไปบ้านก็คงจะไม่ตั้งใจเรียน

และเล่นให้สนุกสนานใจกันอยู่ ดังนั้นการที่ช่วยให้เด็กๆได้มีการเรียนออนไลน์นั้นคือสิ่งที่จะช่วยทำให้พวกเขานั้นยังคงจำหลักสูตรเดิมได้ดีเหมือนเดิม และเมื่อเปิดเทอมใหม่อีกครั้งพวกเขาจะได้ไม่ลืมหลักสูตรที่เคยเรียนไปในชั้นปีที่แล้วมันก็จะทำให้พวกเขานั้นยังพอมีความรู้เก่งเหมือนกับที่เคยเรียนติดต่อกันทุกวัน

โดยพ่อแม่อาจจะมองว่าการเรียนออนไลน์มันเป็นประโยชน์ต่อเด็กๆแต่สำหรับเด็กๆและนั้นการปิดเทอมคือสิ่งสำคัญมันคือเวลาที่พวกเขาควรจะได้ใช้เวลากับพ่อแม่อย่างมีความสุขเวลาที่พวกเขาควรจะได้เล่นอย่างมีความสุขและสบายใจไม่ใช่มานั่งเครียด กับการเรียนตลอดเวลาดังนั้นการเรียนก็เป็นสิ่งที่ทำให้เด็กๆเครียดเช่นเดียวกัน

เพราะว่าพ่อแม่หลายคนมักจะกดดันให้เด็กๆต้องทำคะแนนที่ดีได้และเมื่อทำคะแนนได้ไม่ดีก็จะจบพ่อแม่ว่าพ่อแม่บางคนก็ถึงกับตี เด็กเลยทีเดียวแต่เป็นหน้าที่ 3 อันนี้จะเป็นการบอกว่าเด็กๆไม่จำเป็นที่จะต้องนั่งเรียนออนไลน์ตลอดเวลา

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเด็กนั้นจะต้องเรียนออนไลน์เด็กๆก็ควรจะเรียนออนไลน์ด้วยเช่นเดียวกันแต่เราควรจะปรับเวลาให้เขานั้นได้มีการเล่นด้วยประจวบไปกับการฝึกทักษะไปด้วยเช่นการเล่นเกมฝึกทักษะการเล่นเกมทดสอบสายตาตามหาสิ่งของ

 

สนับสนุนโดย    ถ่ายทอดสดหวยฮานอยวันนี้

สุดยอดกับความสัมพันธ์

ในหลายๆความคิดเห็นว่า ทุกคู่ที่ได้พบรักกับพวกชาวต่างชาติทั้งหลายนั้น มีความเป็นไปได้สูงที่จะเลิกกันเป็นส่วนใหญ่ นั้นก็ไม่ผิดนักหรอก สำหรับคู่ที่คบกับแค่ฆ่าเวลาก็มีเยอะนะ แต่สำหรับคู่ที่จริงๆจัง วัดกับคนที่เป็นแฟนกันคนไทยที่เป็นจริงเป็นจัง นั้นจะวัดได้เลยว่า ระดับการรอดนั้นแบบคบกับต่างชาติมีโอกาสรอดสูงกว่า

เราจะทราบได้ว่าเรื่องความรักมันเหมือนกับพรหมลิขิต ซึ่งมันจะเกิดขึ้นมาเมื่อไหร่ เราก็ไม่ค่อยรู้หรอก แต่คนที่ผ่านๆมานั้นย่อมเป็นอะไรที่เตรียมผ่านมาและผ่านไปแน่นอน การที่เราคุ้นเคยกับการคุยกับคนไทยกันเอง นั้นเปิดโอกาสให้คุยด้วยกันได้ง่าย และทำให้คุยถูกคอและคบหากันได้ง่ายเช่นกัน

แต่ว่าในความเป็นจริงกับเรื่องคนที่เป็นคู่แท้ อาจจะไม่มีอยู่ในนั้นเลย ก็เลยเป็นอะไรที่คบเพียงผ่านได้ง่ายกว่า การที่จะเจอคู่ต่างชาติสักคนหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องพรหมลิขิตจริงๆก็ได้ อย่างน้อยก็เป็นอะไรที่น่าลุ้นอยู่เหมือนกันนะ

แต่อย่างไรก็ตามทุกวันนี้คนที่คบกันแบบชาวต่างชาติ เราจะเห็นว่าพวกเขานั้นจริงจังมากๆกับความสัมพันธ์ พวกเขามักจะมีการว่างแผนถึงการแต่งงานอยู่เสมอ เพื่อเป็นหลักให้เขาเดินหน้าต่อไป ต่างจากคนไทยที่มักจะคิดว่าอยู่ๆกันไปเดี๋ยวถึงเวลาก็แต่งเอง ก็จะกลายเป็นการไม่รู้ถึงวันที่เป็นปลายเหตุของคำว่าคู่รักเลย แล้วมันเป็นอะไรที่ไม่ดีเลยจริงๆ

เพราะเหมือนเป็นการรอเวลาให้ระเบิดลงว่าเมื่อไหร่ ที่ใครสักคนจะอยากล้มเลิกการรอคอยนั้น แล้วก็แยกตัวไป ดังนั้นควรจะเอาอย่างความคิดแบบชาวต่างชาตินะ เพราะพวกเขาจริงจังขนานพาไปรู้จักกับคนในครอบครัวอื่นๆอีกด้วย และงานแต่งก็จะถูกพูดถึงอยู่ตลอด นั้นเป็นความคิดแนวชาวต่างชาติเลยล่ะ

แต่สำหรับคู่ที่ไปกันไม่รอดนั้นก็อาจเป็นเพราะอะไรสักอย่างที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน แล้วของเดาว่าส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่คู่ทั่วโลกไม่สามารถเอาชนะได้เหมือนกันทั้งนั้น ก็คือเรื่องของระยะทางนั้นเอง แต่สำหรับคนที่แกร่งพอนั้นก็คงไม่ยากสำหรับเขานัก 

ว่ากันว่าการมีแฟนเป็นชาวต่างชาตินั้นจะทำให้จิตใจกระชุมกระชวยจากการที่ได้รับความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมอยู่ตลอด การทำงานก็จะง่ายดายขึ้นไปอีก ถ้าเกิดว่าไม่ได้มีปัญหาทางครอบครัวด้วย มันเป็นเรื่องแน่อยู่แล้วที่ ทุกคู่อาจจะเจอกับเรื่องนอกใจ ซึ่งมันเป็นไปได้ทุกคู่ไม่ว่าชาติไหน ก็หวังว่าคู่ของคุณจะไม่เป็นคู่ที่โชคร้ายนั้น

 

 

สนับสนุนโดย  เว็บหวยจ่าย เปอร์เซ็นต์ เยอะ