หากการชุมนุมยังยึดเยื้ออาจจะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจ

             จากสถานการณ์ในขณะนี้ที่ประเทศไทยกำลังมีกลุ่มนิสิตนักศึกษาพากันออกมารวมตัวประท้วงเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลนั้นมีการยุบสภาและแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญซึ่งการออกมาชุมนุมนั้นได้มีการออกมาชุมนุมประมาณ 3-4 วันแล้วถึงแม้ว่าการชุมนุมที่นิสิตนักศึกษาออกมารวมกันจะเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย ไม่มีการทำลายทรัพย์สินเหมือนกับการชุมนุมก่อนๆที่ผ่านมารวมถึงไม่มีเหตุรุนแรงอะไรเลยแต่การที่กลุ่มนิสิตนักศึกษาออกมาเรียกร้องพากันมาชุมนุมในช่วงประมาณ 15:00 น เป็นต้นไปและสิ้นสุดการชุมนุมตั้งแต่ 20:00 น. เป็นต้นไป

              ดังนั้นในช่วงเวลาดังกล่าวส่งผลให้บริษัทที่อยู่ในพื้นที่ของการชุมนุมจำเป็นต้องปล่อยพนักงานกลับบ้านเร็ว และบางจุดมีการชุมนุมตรงบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าซึ่งสิ่งที่ตามมานั่นก็คือคนที่ไม่ได้เข้าร่วมการชุมนุมไม่สามารถเดินทางไปช๊อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าได้เพราะเกรงเกี่ยวกับเรื่องของความปลอดภัยและที่สำคัญมักจะมีปัญหารถติดตรงบริเวณที่ชุมนุมเป็นอย่างมาก

           และด้วยเหตุผลนี้เองทางด้านบริษัทในภาคเอกชนต่างๆจึงได้ออกมาพูดถึงสถานการณ์การชุมนุมในครั้งนี้ต่อนายกรัฐมนตรีโดยหวังว่าจะให้นายกรัฐมนตรีนั้นช่วยฟังเสียงของกลุ่มนักศึกษาที่พาก่อนออกมาชุมนุมให้พิจารณาข้อเสนอของกลุ่มนักศึกษาซึ่งอาจจะมีบางข้อเสนอที่รัฐบาลสามารถดำเนินการได้เช่นเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือแม้แต่การกำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่สิ่งเหล่านี้รัฐบาลสามารถทำได้แต่ถ้าเกิดรัฐบาลยังยืดเยื้อต่อไปกลุ่มนิสิตนักศึกษาก็จะทวีการรวมตัวกันมากขึ้นเพราะหลังจาก 4 วันที่มีการชุมนุมติดต่อกันจำนวนผู้ชุมนุมเลือกมากขึ้นและสถานที่ชุมนุมก็มีการขยายเพิ่มมากขึ้นก่อนหน้านี้จะมีการชุมนุมกันแค่ภายในเขตกรุงเทพฯตอนนี้มีการขยับขยายออกไปในปริมณฑลและต่างจังหวัดแล้ว

            ซึ่งแน่นอนว่าจุดที่นิสิตนักศึกษาพากันไปชุมนุมนั้นมักจะเป็นบริเวณที่มีผู้คนหนาแน่นเป็นที่สาธารณะและเป็นที่ที่มีบริษัทร้านค้าและห้างสรรพสินค้าดังนั้นเมื่อยังมีการชุมนุมอยู่ก็จะส่งผลเกี่ยวกับเรื่องของเจ้าของธุรกิจและพ่อค้าแม่ค้าได้รับผลกระทบจากการชุมนุมเพราะจะไม่สามารถขายสินค้าในบริเวณที่มีการชุมนุมได้รวมถึงเจ้าของกิจการก็ต้องปล่อยให้ลูกจ้างกลับบ้านเร็วขึ้นเพื่อความปลอดภัยของลูกจ้างทำให้ขาดรายได้และเสียเวลาแทนที่จะสามารถทำงานสร้างสินค้าขึ้นมาและนำไปจำหน่ายได้นั่นเอง

           อาจกล่าวได้ว่าถึงแม้ว่าการชุมนุมจะเป็นไปอย่างความสงบเรียบร้อยแต่ก็กระทบกับเศรษฐกิจภายในประเทศได้เช่นเดียวกันเพราะเมื่อมีการชุมนุมก็ทำให้คนไม่อยากมาจับจ่ายซื้อของตรงบริเวณที่มีการชุมนุมดังนั้นเมื่อไม่มีรายได้ตรงบริเวณที่มีการชุมนุมสิ่งที่ตามมาก็คือ ปัญหาเศรษฐกิจที่จะยังไม่สามารถแก้ไขให้ได้ดีได้และถ้ายังไม่ได้แก้ไขผลกระทบอาจจะไม่ใช่เฉพาะเศรษฐกิจภายในประเทศแต่อาจจะลุกลามไปถึงเรื่องเศรษฐกิจของต่างประเทศด้วยก็ได้             

 

สนับสนุนโดย    กลุ่มไลน์หวยฮานอย

ประชาชนคนไทยจะเป็นยังไงต่อไปเมื่อพนักงานการบินไทยอีก 6000 คนกำลังจะตกงาน 

          ตั้งแต่มีปัญหาเรื่องการระบาดของไวรัสโควิด-19 เข้ามาทำให้ประชากรไทยหลายแสนคนต้องตกงานอย่างกะทันหันอีกหลายคนถึงแม้ว่าจะมีการชดเชยจากทางบริษัทหรือแม้แต่ทางโรงงานก่อนที่จะมีการจ้างงานก็ยังได้รับความเดือดร้อนกันอยู่อย่างล่าสุดแม้แต่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างการบินไทยก็จำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานเหตุก็เพราะว่าตนเองนั้นกำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย

ซึ่งจะต้องมีจำนวนพนักงานที่ต้องตกงานถึง 6000 คนเลยทีเดียวจากที่เคยมั่นใจว่าบริษัทการบินไทยนั้นเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีทางรัฐบาลคอยดูแลพนักงานของการบินไทยนั้นต่างก็เชื่อมั่นว่าตนเองนั้นอยู่ในบริษัทที่ไม่มีวันล้มละลายแน่นอนหลายคนมองว่าหากเข้าทำงานที่การบินไทยได้นั้นก็ถือว่าตนเองนั้นประสบความสำเร็จแล้วเพราะฐานเงินเดือนก็ดีโบนัสก็ดีสิ่งที่พนักงานการบินไทยได้รับจากบริษัทนั้นถือว่าดีทุกอย่างจึงทำให้การเข้าทำงานที่บริษัทการบินไทยนั้นเป็นความฝันของใครหลายๆคนแต่ใครจะรู้ว่าตอนนี้พนักงานการบินไทยกำลังแย่

เพราะบริษัทเองก็กำลังจะถูกฟ้องล้มละลายและตัวพนักงานเองก็จะต้องตกงานมากมายถึง 6000 คนเพราะบริษัทเองก็จำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างของบริษัทเพื่อรองรับหนี้สินและเมื่อรวมกันแล้วกับผู้ตกงานจากบริษัทอื่นๆรวมถึงผู้ตกงานจากบริษัทการบินไทยทำให้ปัจจุบันนี้ประชาชนคนไทยมีจำนวนผู้ตกงานหลายแสนคนเลยทีเดียว

ซึ่งส่วนใหญ่นั้นมาจากปัญหาตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของไวรัสโคโรน่าธุรกิจหลายธุรกิจที่กำลังเป็นไปได้ดีต่างก็ต้องหยุดชะงักและเมื่อช่วงที่มีการหยุดชะงักนั้นไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้จึงไม่มีเงินทุนหมุนเวียนให้กับธุรกิจของตนเองทำให้หลายคนที่กำลังจะประสบกับความสำเร็จกับธุรกิจที่สร้างมากับต้องล้มเหลวและปิดกิจการลงและเมื่อมีคนตกงานเป็นจำนวนมากขนาดนี้การที่เศรษฐกิจของประเทศไทย

จะกลับมาดีจนทำให้ประชาชนคนไทยทุกคนนั้นกลับมามีงานทำเหมือนเดิมจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ค่อนข้างยากหากต้องการที่จะให้สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาคนว่างงานได้เร็วภายในเวลาไม่กี่เดือนยังเป็นคำถามที่อยู่ในใจของคนไทยทุกคนว่าและนับจากนี้ไปคนที่ตกงานจะต้องทำอย่างไร

เพราะไม่ใช่ว่าทุกบริษัทจะสามารถรับพนักงานใหม่ได้ทั้งหมดของจำนวนคนที่ตกงานซึ่งถ้าหากมีคนตกงานเยอะมากขนาดนี้พวกเขาจะต้องแก่งแย่งชิงดีกันในการหางานทำใหม่แล้วจะสามารถหาบริษัทที่ไหนรองรับกับจำนวนผู้ตกงานได้มากขณะนี้กันในสถานการณ์เช่นนี้จึงเป็นปัญหาที่ทางรัฐบาลเองจำเป็นที่จะต้องหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่ใช่นั้นเศรษฐกิจไทยไปไม่รอดแน่ๆ

 

สนับสนุนโดย  หวยฮานอยออนไลน์

งาน Otop ที่จัดที่เมืองทองธานี 8 ถึง 16 สิงหาคมสร้างรายได้ให้กับ ศิลปาชีพ เกินกว่า 300 ล้านบาท 

         หลังจากที่ประเทศไทยเริ่มคลี่คลายสถานการณ์ไวรัสเป็นที่เรียบร้อยก็เริ่มมีการจัดกิจกรรมและอีเว้นท์ต่างๆมากมายซึ่งล่าสุดที่กำลังมีการจัดงานกันอยู่นั้นเป็นการจัดงานเกี่ยวกับการนำสินค้า OTOP มาจำหน่ายโดยการจัดงานนั้นได้มีการจัดขึ้นที่อิมแพ็คอารีน่าเมืองทองธานีซึ่งการจัดงานครั้งนี้จัดขึ้นโดยชุมชนพัฒนากระทรวงมหาดไทยโดยหวังว่าการนำสินค้า OTOP มาขาย

ภายในงานนั้นจะช่วยสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชนที่ผลิตสินค้าออกมาเพื่อจำหน่ายเพราะโดยปกติแล้วการจัดงาน Otop นั้นก็จะมีขึ้นเป็นประจำทุกปีอยู่แล้วซึ่งงาน Otop นั้นจะมีการกระจายการจัดงานทั่วประเทศโดยจะมีการจัดภายในห้างสรรพสินค้าและตามศูนย์ราชการต่างๆแต่เนื่องจากว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีการระงับการจัดงานและจัดกิจกรรมเพราะต้องการลดความเสี่ยงในการที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคจึงทำให้สินค้าที่ชาวบ้านมีการผลิตเอาไว้นั้นยังคงสต๊อกเอาไว้และไม่ได้ออกนำมาจำหน่ายจนในที่สุดเมื่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสที่คายก็เริ่มได้มีการนำสินค้าที่ชาวบ้านช่วยกันผลิตเอาไว้ออกมาจำหน่าย

เพื่อที่จะได้นำเม็ดเงินที่ขายได้ไปหมุนเวียนใช้จ่ายภายในชุมชนให้คนในชุมชนนั้นมีเงินใช้จ่ายอีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยให้ดีขึ้นจากเดิมอีกด้วยเพราะถ้าหากว่าคนในชุมชนมีเงินใช้จ่ายเศรษฐกิจในชุมชนแข็งแรงมากขึ้นก็จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นตามลำดับนั่นเองอย่างไรก็ตามในการจัดงาน Otop ในครั้งนี้ได้มีการเริ่มงานมาแล้ว

ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 เดือนสิงหาคมปีพศ2563 ที่ผ่านมาและกำลังจะสิ้นสุดการจัดงานลงในวันที่ 16 เดือนสิงหาคมปีพศ2563 นี้เองซึ่งจากรายงานเกี่ยวกับการขายสินค้า OTOP ภายในงานนั้นนับได้ว่าผลกำไรในการขายสินค้านั้นค่อนข้างดีเกินกว่าที่ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตั้งเป้าเอาไว้เพราะณปัจจุบันนี้มียอดการขายสินค้า OTOP ไปแล้วทั้งสิ้นเกินกว่า 300 ล้านบาทซึ่งถือว่าเกินจากที่ทางเจ้าหน้าที่การจัดงานนั้นได้มีการตั้งเป้าไว้อย่างมากเลยทีเดียวซึ่งถ้าหากใครสนใจที่จะเข้าไปร่วมงานก็ยังคงสามารถไปร่วมงานได้

โดยสินค้าที่มีจำหน่ายภายในงานนั้นก็จะเป็นสินค้าพื้นเมืองพื้นบ้านของไทยซึ่งจะเป็นสินค้าของแต่ละจังหวัดที่นำมาจำหน่ายทั้งสิ้นรวมทั้งหมด 76 จังหวัดด้วยกันเช่นพวกอาหารหรือแม้แต่เสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มรวมถึงการผลิตสินค้าที่ระลึกและการนำสมุนไพรมาขายซื้อสินค้าเหล่านี้ถ้าหากเราอยากจะได้ซื้อปกติแล้ว

ก็จะต้องไปตามจังหวัดต่างๆเพราะมันเป็นสินค้าของชุมชนของจังหวัดนั้นๆแต่ครั้งนี้ได้มีการนำสินค้าทุกประเภทของแต่ละจังหวัดมารวมตัวกันทำให้หลายคนที่ทราบข่าวการจัดงานสินค้า OTOP นี้ต่างก็พากันมาร่วมงานและซื้อของกับติดไม้ติดมือกลับบ้านไปจึงทำให้การจัดงานในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย    หวยออนไลน์บาทละ 900

หนุ่ม ม.6  ยอมสารภาพสาเหตุที่ฆ่าแฟนสาว

         จากกรณีที่มีหญิงสาวคนหนึ่งอายุ 19 ปีเป็นคนจังหวัดพิษณุโลก  หายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 27 เดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ.2564  จนญาติพี่น้องต้องไปแจ้งความคนหายเอาไว้  และล่าสุดมีคนพบกลายเป็นศพ ถูกฆ่าตายและที่สำคัญถูกเผานั่งยางเอาไว้ในป่าลึก ในอำเภอ วังทอง 

       ซึ่งหลังจากที่พบศพ คนที่ตำรวจให้ความสนใจและสงสัยเป็นคนแรกก็คือ เด็กหนุ่มวัย 18 ปี ที่เป็นคู่หมั้นของผู้ตายนั่นเอง สาเหตุของการสงสัยในครั้งนี้ก็เพราะว่า ก่อนที่ผู้ตายจะหายตัวไปนั้น พยานหลายคนยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า คนที่อยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้ายนั้นก็คือ เด็กหนุ่มคนนี้นี่เอง  

       อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้มีการเรียกตัว เด็กชายคนดังกล่าวไปสอบเค้นเป็นระยะเวลานาน ในที่สุด เขาก็รับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าแฟนสาวเอง โดยยืนยันว่าเหตุการณ์นี้เขาทำเองคนเดียวทั้งหมด  ส่วนสาเหตุของการฆ่าแฟนสาวในครั้งนี้นั้นเกิดจากอุบัติเหตุ เนื่องจากทั้งคู่ทะเลาะกัน จึงได้พลั้งมือฆ่านั้นเอง

     ส่วนสาเหตุที่ทะเลาะกันนั้น เด็กหนุ่มเล่าว่า ผู้ตายนั้นมาขอเลิกโดยบอกว่าจะไปทำงานที่จังหวัดอื่น และตัวเขาเองก็ยังต้องเรียนต่อไม่สามารถตามไปอยู่กับแฟนสาวได้  และผู้ก่อเหตุยังได้รู้มาอีกว่าตอนนี้คู่หมั้นสาวของตัวเองกำลังแอบคบกับผู้ชายคนอื่นอยู่ ทำให้เขาไม่พอใจและระแวงว่าหากแฟนสาวไปทำงานที่อื่นจะต้องไปมีคนรักใหม่อย่างแน่นอน จึงได้ทะเลาะกันอย่างรุนแรง  

     สำหรับสถานที่ก่อเหตุนั้นเป็นบ้านของผู้ต้องหาเอง ในขณะที่บีบคอผู้ตายจนเสียชีวิตนั้น ไม่มีใครอยู่ในบ้านแม้แต่คนเดียว พอผู้ตายเสียชีวิตแล้ว  ผู้ต้องหาจึงได้นำร่างผู้ตายไปไว้ในที่นั่งตอนหลังของรถกะบะ  หลังจากนั้นก็เอายางรถยนต์เก่าที่มีอยู่ในบ้าน เพราะกับน้ำมันและไฟแชต ขับรถเข้าไปในป่าลึก แล้วจุดไฟเผาเพื่ออำพรางศพ    

      ทางด้านครอบครัวของผู้ตายนั้น เชื่อว่าการฆาตกรรมในครั้งนี้ เด็กหนุ่มคงไม่ได้ทำเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น น่าจะต้องมีคนช่วยเหลือในการก่อเหตุ แต่ในส่วนของครอบครัวของผู้ก่อเหตุนั้น  ก็ยืนยันเช่นเดียวกันว่า คนในครอบครัว ไม่เคยมีใครรู้เรื่องการฆ่ากันในครั้งนี้เลย  

     เพราะก่อนหน้าที่ผู้ตายจะหายตัวไป ทางครอบครัวของผู้ตายก็มาบอกให้ทั้งคู่เลิกกัน ดังนั้น เมื่อผู้ตายหายออกจากบ้านและเด็กหนุ่มบอกว่าผู้ตายไปทำงานที่จังหวัดอื่นแล้วทำให้ทุกคนในครอบครัวเชื่อตามคำบอกเล่า อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการสืบเพิ่มเติมว่ามีคนอื่นร่วมทำผิดด้วยหรือไม่

 

สนับสนุนโดย.    แทงหวยออนไลน์ยังไง

         เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ 2561 เมื่อหญิงสาวที่ชื่อว่าสุพรรษา  ได้ถูกจับกุมคดีขายยาเสพติดซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อนางสาวสุพรรษาได้นั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของแฟนหนุ่มเพื่อไปทำธุระโดยที่เธอไม่รู้เลยว่าแฟนหนุ่มของเธอนั้นได้มีการลักลอบขายยาบ้าและนำยาบ้าทั้งหมด 41 เม็ดไปขายให้กับลูกค้าแต่เหตุการณ์ในครั้งนั้นเป็นการล่อซื้อจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้เหตุการณ์ในครั้งนั้นแฟนหนุ่มของเธอถูกจับกุมและเธอนั้นถูกจับด้วยเช่นเดียวกันในข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการขายยาเสพติดนั้นเอง

         อย่างไรก็ตามในช่วงที่เธอถูกจับกุมนั้นเป็นช่วงที่เธออายุเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้นและเธอได้มีการปฏิเสธกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยให้เหตุผลว่าเธอต้องรู้จักกับแฟนหนุ่มแค่ 4 เดือนเท่านั้นและเธอไม่เคยรู้ว่าแฟนหนุ่มนั้นมีอาชีพขายยาเสพติดมาก่อนซึ่งครอบครัวของนางสาวสุพรรษานั้นมีฐานะยากจนดังนั้นในช่วงที่เธอถูกจับกุมข้อหายาเสพติด ทางญาติและคนในครอบครัวจึงไม่ได้มีการนำเงินประกันตัวเธอ ทำให้เหตุการณ์ในครั้งนั้นเธอต้องติดคุกและอยู่ในคุกนานถึง 8 เดือนกว่าเลยทีเดียว

         และตลอดระยะเวลา 8 เดือนนั้นเธอได้พยายามสู้คดีมาโดยตลอดโดยครอบครัวของเธอได้มีการไปติดต่อฝ่ายกฎหมายที่มีทนายอาสาสามารถช่วยเหลือทำคดีให้ฟรีซึ่งกว่าคดีของเธอจะถูกตัดสินในชั้นศาลและถูกตัดสินว่าเธอไม่มีความผิดนั้นเธอก็ต้องติดคุกนานถึง 21 เดือนเลยทีเดียว  อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 29 เดือนมีนาคม ปีพ.ศ. 2564 

       หลังจากที่ศาลได้มีการตัดสินออกมาแล้วว่านางสาวสุพรรษาไม่มีความผิดและเป็นการติดคุกฟรีดังนั้นจึงต้องมีการเยียวยาให้กับนางสาวสุพรรษากับเหตุการณ์ในครั้งนี้ซึ่งศาลได้สั่งให้กระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ดำเนินการเยียวยาให้กับนางสาวสุนิสาโดยทางกระทรวงยุติธรรมนั้นจะมีการเยียวยาด้วยการจ่ายเงินชดเชยให้กับนางสาวสุนิสาเป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท

          ซึ่งมีการระบุว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะมีการโอนเข้าบัญชีของนางสาวสุพรรษา  ภายในไม่เกินวันที่ 9 เดือนเมษายนปีพศ. 2564 นี้ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ครั้งแรกของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ที่มีผู้ติดคุกจากคดียาเสพติดและเป็นแพะในคดีได้รับเงินชดเชยเยียวยา 

            อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่านางสาวสุพรรษาจะได้รับเงินเยียวยาเป็นจำนวนมาก แต่เชื่อได้ว่าหากเลือกได้ก็คงไม่มีใครอยากที่จะถูกจับติดคุกฟรีอย่างแน่นอนดังนั้นเรื่องนี้จึงควรจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้พิทักษ์สันติราษฎร์และศาลซึ่งดูแลกฎหมายควรมีการตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆอย่างยุติธรรมไม่ควรตัดสินแล้วนำคนบริสุทธิ์มาเป็นแพะ  เพราะไม่ว่าจะได้รับเงินชดเชยมากแค่ไหนก็ไม่สามารถชดเชยความรู้สึกและวันเวลาที่เสียไปได้อย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย.    หวยฮานอยเล่นยังไง

โรงแรมในจังหวัดยืนยันออกมาว่ามีคนจากจังหวัดสมุทรสาคร 100 คนมาเข้าพัก

            ก่อนหน้านี้มีข่าวลือหนาหูในโลกออนไลน์ว่ามีโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดจันทบุรีชื่อว่าโรงแรมนิวแทรเวิลลอด์จ  ได้มีการต้อนรับคนจังหวัดสมุทรสาครจำนวนมากกว่า 100 คนเข้าพักในโรงแรมโดยคนที่นำข้อมูลมาเผยแพร่ในโลกโซเชียลนั้นมองว่านี่คือความน่ากลัวที่จังหวัดจันทบุรีกำลังประสบ  เพราะอาจเป็นไปได้ว่าจำนวนคน 100 คนที่มาเข้าพักในโรงแรมนั้นอาจจะมีบางคนที่มีการติดเชื้อไวรัสและนำเชื้อไวรัสมาแพร่ให้กับคนจังหวัดจันทบุรีก็ได้

      อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่านี่จะเป็นเพียงแค่ข่าวลือกันในโลกออนไลน์แต่ท้ายที่สุดแล้วทางด้านผู้บริหารของโรงแรมก็ได้ออกมายืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าข่าวลือที่มีเกิดขึ้นในโลกออนไลน์นั้นเป็นเรื่องจริงเพราะจำนวนคน 100 คนที่เดินทางเข้าพักโรงแรมนั้นได้เดินทางมาช่วงประมาณวันที่ 19 เดือนธันวาคมปีพศ2563

โดยบุคคลทั้งหมด 100 คนมากันเนื่องจากว่ามีการจัดการแต่งงานภายในจังหวัดจันทบุรีและคน 100 คนนั้นได้มาร่วมงานแต่งงานจึงได้มีการจองโรงแรมเป็นที่พัก   ซึ่งแน่นอนว่าทั้ง 100 คนนั้นได้อยู่อาศัยภายในโรงแรมดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 19 จนถึงวันที่ 20 เดือนธันวาคมปีพศ2563 เพราะได้มีการจัดการแต่งงานขึ้นภายในโรงแรมนิวแทรเวิลลอด์จ นั่นเอง    

         อย่างไรก็ตามทางด้านผู้บริหารของโรงแรมได้มีการออกมาประชาสัมพันธ์ว่าทางด้านโรงแรมเองไม่ได้มีการนิ่งนอนใจได้มีการประสานงานไปยังผู้ที่ทำการจองห้องพักในโรงแรมเพื่อให้ช่วยตรวจสอบจำนวนผู้ที่มาพักในโรงแรมจำนวน 100 คนว่ามีใครบ้างที่ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลและมีเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือไม่ให้มีการประสานงานแจ้งมากับทางโรงแรมซึ่งถ้าหากผลการตรวจร่างกายพบว่าภายใน 100 คนที่มาพักภายในโรงแรมมีใครติดเชื้อไวรัสโคโรนาทางโรงแรมก็จะมีการประชาสัมพันธ์แจ้งให้คนจังหวัดจันทบุรีทราบทันทีและในขณะนี้ทางโรงแรมเองก็มีการคัดกรองบุคคลที่จะมาเข้าพักภายในโรงแรมให้เข้ม

        แน่นอนว่าโรงแรมยืนยันว่าในช่วงที่มีการจัดงานแต่งงานและมีคนจากจังหวัดสมุทรสาครมาเข้าพักมากกว่า 100 คนนั้นทางโรงแรมเองก็ได้มีการคัดกรองโดยมีการวัดไข้ผู้ที่มาร่วมงานก่อนที่จะให้เดินทางเข้าพักในโรงแรมและทุกคนต้องมีการสวมใส่หน้ากากอนามัย  รวมถึงพนักงานทุกคนที่ให้บริการลูกค้าจำนวน 100 คนที่มาจากจังหวัดสมุทรสาครก็มีการสวมใส่หน้ากากอนามัยและมีการสวมใส่ถุงมือเป็นอย่างดีดังนั้นโรงแรมจึงมีความมั่นใจมากว่าจะไม่มีพนักงานภายในโรงแรมคนไหนติดเชื้อไวรัสโคโรนาและเชื้อไวรัสโคโรนาจะไม่มีการแพร่กระจายไปยังลูกค้าคนอื่นๆที่มาเข้าพักที่โรงแรมจังหวัดจันทบุรีอย่างแน่นอน

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย.  หวยลาวฮานอยวันนี้

คดีปริศนา  ศพนิรนามถูกฆ่าหมกป่าตายไป 8 ปีสุดท้ายพบว่าเป็นน้องหลิว

       ในช่วงเวลานี้ข่าวที่โด่งดังและคนกำลังเฝ้าติดตามอยู่ข้างหนึ่งนั่นก็คือข่าวกรณีที่มูลนิธิกระจกเงาได้มีการออกมาประกาศว่าหญิงสาววัย 19 ปีที่ทางครอบครัวเคยประกาศแจ้งเป็นคนหายเอาไว้นั้นปัจจุบันนี้ 

        ได้พบเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยพบถูกเป็นศพนิรนาม  ซึ่งมีการเสียชีวิตแล้วมาประมาณ 8 ปี  แน่นอนว่าจากการที่มีการประกาศออกมาเกี่ยวกับเรื่องของการพบศพน้องหลิวที่ครอบครัวได้มีการประกาศตามหาคนหายและแจ้งความตามหาคนหายเอาไว้  เมื่อช่วงประมาณปีพศ 2562 ในที่สุดก็สามารถที่คนในครอบครัวของน้องหลิวก็สามารถพบน้องหลิวแล้วถึงแม้การพบในครั้งนี้จะเป็นการพบที่เหลือเพียงแค่กระดูกก็ตาม

          อ้างอิงย้อนหลังไปตั้งแต่ปีพ.ศ 2555   เมื่อประมาณ วันที่ 5 เดือนพฤษภาคมปรากฏว่ามีลูกจ้างในจังหวัดปราจีนบุรีซึ่งเป็นลูกจ้างชาวต่างด้าวได้มีการแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้พบศพหญิงสาวคนหนึ่งถูกฆ่าตายและนำร่างมาทิ้งไว้ในป่าอ้อยซึ่งในตอนนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการติดตามหาครอบครัวของหญิงสาวคนดังกล่าว

           แต่ก็ไม่รู้ว่าหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นเป็นใครจนระยะเวลานั้นผ่านเนิ่นนานไปนานถึง 8 ปีในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถปฏิบัติการได้สำเร็จสามารถค้นหาได้ว่าศพที่เจอเมื่อ 8 ปีที่แล้วนั้นปรากฏว่าคือน้องหลิว  หรือนางสาวมยุรีซึ่งได้หายตัวออกจากบ้านไปเป็นระยะเวลานานซึ่งในตอนแรกนั้นคนในครอบครัวของเธอนั้นเข้าใจว่าเธอเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศเพราะนับตั้งแต่เธอเริ่มหายตัวไปก็ปรากฏมีบุคคลนิรนามโทรเข้าไปยังพ่อแม่ของน้องหลิวเพื่อแจ้งว่าน้องหลิวเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศและไม่ต้องเป็นห่วง

           แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายปีน้องหรือไม่เคยติดต่อกลับมายังพ่อแม่เลยทำให้พ่อแม่เริ่มสงสัยแล้วจึงไปแจ้งความตามหาคนหายจนในที่สุดในตอนนี้จึงได้พบน้องหลิวที่เหลือเพียงแต่โครงกระดูกเท่านั้น   ด้านครอบครัวของน้องอิงค์นั้นก็เศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมากไม่คิดว่าลูกของตนเองจะถูกฆ่าตายมานานถึง 8 ปีแล้วยังไงก็ตามนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งหาสาเหตุของการเสียชีวิต

            และหาหลักฐานต่างๆเพื่อสามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เนื่องจากว่าผลการชันสูตรศพเบื้องต้นนั้นพบว่าน้องหลิวถูกฆ่าด้วยอาวุธปืนแล้วจึงถูกนำศพมาทิ้งไว้ในป่าอ้อยดังนั้นตอนนี้จึงเป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะตามหาพยานหลักฐานต่างๆเพื่อจับคนร้ายมาดำเนินคดี  คาดว่าไม่นานคนร้ายต้องถูกจับอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย.  เว็บหวยออนไลน์ เชื่อถือได้

จักรยานถูกชนแล้วหนี ที่จังหวัดร้อยเอ็ด

           เกิดเหตุการณ์น่าเศร้าสลดใจเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 เดือนธันวาคม  ปีพศ 2563    ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเป็นช่วงเวลาประมาณ19:50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากคนขับรถทัวร์  ให้มาตรวจสอบศพเพศชายคนหนึ่งคาดว่าอายุจะอยู่ที่ประมาณ 30-40 ปี ได้เสียชีวิตอยู่ตรงบริเวณกลางถนนตรงเส้นถนนบายพาสเลี่ยงเมืองของจังหวัดร้อยเอ็ด   ซึ่งบริเวณดังกล่าวนั้นอยู่ตรงตำบลนิเวศน์อำเภอธวัชบุรี  

           โดยคนขับรถทัวร์ได้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าในขณะที่เขาขับรถมาบริเวณดังกล่าวนั้นปรากฏว่ารถของเขาได้มีการเหยียบจักรยานซึ่งตอนที่กลับมานั้นเขามองไม่เห็นแต่เมื่อลงมาดูพบว่ายังล้อของเขานั้น  ได้มีการเปรียบจักรยานจนได้รับความเสียหายยางแตกและเมื่อเขาหันไปมองบริเวณโดยรอบก็พบว่ามีร่างผู้เสียชีวิตนอนเสียชีวิตอยู่ตรงบริเวณกลางถนนซึ่งในขณะนั้นมีรถที่วิ่งผ่านไปผ่านมาตรงบริเวณดังกล่าวได้ขับเหยียบร่างของผู้เสียชีวิตไปมาหลายคัน

          ทางด้านคนขับรถทัวร์จึงได้มีการประสานงานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบพื้นที่และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ที่เสียชีวิตไม่ได้พบหลักฐานอะไรติดตัวมาเลยซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าน่าจะเป็นคนที่ขี่จักรยานเพื่อออกกำลังกายแต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวนั้นไม่มีไฟทางจึงทำให้มืดมากและน่าจะเกิดอุบัติเหตุมีรถเฉี่ยวชนร่างผู้เสียชีวิตอาจจะกลิ้งไปบริเวณกลางถนนและเนื่องจากว่ารถที่วิ่งมานั้นวิ่งมาด้วยความเร็วและอาจจะไม่เห็นว่ามีคนนอนได้รับบาดเจ็บอยู่ตรงบริเวณกลางถนน

           จึงทำให้มีการขับรถเหยียบไปมาจนในขณะนี้ชายคนดังกล่าวนั้นเสียชีวิตเป็นที่เรียบร้อยแล้วและสภาพของศพนั้นก็น่าเศร้าสลดใจมากเนื่องจากว่าถูกเหยียบซ้ำไปมาหลายครั้งจึงทำให้สภาพศพนั้นค่อนข้างดูไม่ได้ตรงบริเวณเอวมีแผลฉีกขาดอีกทั้งร่างกายยังผิดรูปค่อนข้างเยอะอีกด้วย ซึ่งในขณะนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบว่าชายที่เสียชีวิตดังกล่าวนั้นเป็นใครเพื่อที่จะได้ประสานงานให้ญาติของชายคนดังกล่าวมารับศพไปบำเพ็ญกุศล

         และในขณะนี้ก็ได้ตามตัวหาคนผิดมาดำเนินคดีโดยต้องไปทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังในช่วงเวลาเกิดเหตุว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไรและรถที่ชนทำให้ชายคนนี้เสียชีวิตนั้นเป็นรถอะไรเพื่อที่จะได้ประสานงานจับกุมมาดำเนินคดีนั้นเอง

         อย่างไรก็ตาม  เรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อาจจะเกิดขึ้นจากความประมาทของผู้ขับขี่รวมถึงบริเวณถนนดังกล่าวนั้นควรได้รับการปรับปรุงแก้ไขควรจะมีการนำไฟทางมาติดส่งแสงสว่างให้รถที่วิ่งสัญจรไปมาได้มองเห็นทางอย่างชัดเจนเพื่อที่จะได้เห็นผู้ที่เดินอยู่ตรงบริเวณข้างถนนและเป็นการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างดี

 

สนับสนุนโดย.  ซื้อหวยรัฐบาลไทย เว็บไหนดี

นกเอี้ยงใบหวย ให้เลขแม่น ที่จังหวัดอ่างทอง 

       ที่จังหวัดอ่างทองมีข่าวลือมาจากชาวตำบล เทวราช  ถึงวัดที่ชื่อว่า วัดเยื้องคงคาราม ว่าที่วัดแห่งนี้นั้น มีนกเอี้ยงที่เจ้าอาวาสวัดเลี้ยงไว้อยู่ตัวหนึ่ง มีชือว่า เจ้าโอเอี้ยง  โดยนกเอี้ยงตัวนี้ สามารถให้หวยแม่นมาก เพราะมีชาวบ้านที่ไปขอเลขจากเจ้าโอเลี้ยง และมีคนถูกหวยติดต่อกันหลายงวดแล้ว จนตอนนี้เจ้าโอเลี้ยงมีชื่อเสียงโด่งดังมากเลยทีเดียว 

       ดังนั้น เมื่อวันที่ 7 เดือนมีนาคม ปี พศ 2564 ไม่มีนักข่าวเดินทางไปที่วัดเยื้องคงคารามเพื่อไปพิสูจน์ให้เห็นกับตาตนเองว่า.    ถูกหวยลาว2ตัวได้กี่บาท    ที่นี่มีนกเอี้ยงพี่สามารถให้หวยได้จริงหรือไม่และเมื่อเดินทางไปถึงงานก็พบว่าภายในบริเวณวัดนั้นมีทั้งนักท่องเที่ยวและชาวบ้านในพื้นที่ต่างก็พากันมาที่วัดแห่งนี้กันเป็นจำนวนมาก

            โดยมาทำการทำบุญที่วัดแห่งนี้พร้อมกันนั้นก็ได้มีการเดินไปตรงบริเวณที่มีการตั้งกรงขังของเจ้าโอเลี้ยงเอาไว้เพื่อที่จะได้ทำการละเล่นกับเจ้าโอเลี้ยงและขอเลขกับเจ้าโอเลี้ยงเพื่อเอาไปซื้อหวยนั่นเองสำหรับเจ้าโอเลี้ยงนั้นเป็นนกเอี้ยงตัวสีดำซึ่งในขณะนี้นั้นมันมีอายุประมาณ 8 เดือนโดยทางด้านเด็กวัดและให้ข้อมูลกับนักข่าวว่าเจ้าโอเลี้ยงนี้มาอยู่ที่วัดแห่งนี้ตั้งแต่มันยังเล็กๆ

        เนื่องจากว่าในตอนนั้นเราเลี้ยงตกลงมาจากต้นไม้และมีเด็กวัดเห็นเท่าจึงได้นำตัวโอเลี้ยงไปให้เจ้าอาวาสดูซึ่งท่านเจ้าอาวาสนั้นก็ใจดีรับเลี้ยงเจ้าโอเลี้ยงเอาไว้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาโดยมิได้มีการนำมาวางไว้ภายในกรงซึ่งกรงของเจ้าโอเลี้ยงนี้จะอยู่ตรงบริเวณใต้ต้นมะยงชิดและอยู่ใกล้กับสระน้ำและเมื่อชาวบ้านเดินทางมาทำบุญที่วัดแห่งนี้ก็มักจะแวะมาเล่นกับเจ้าโอเลี้ยงโดยมาสอนให้เจ้าโอเลี้ยงนั้นหัดพูด

           ซึ่งเจ้านั้นก็เป็นนกเอี้ยงที่มีความฉลาดเป็นอย่างมากเลยทีเดียวมันสามารถพูดได้ตามที่ชาวบ้านไม่มีการสอนต่างจากนั้นก็เริ่มมีคนหันมาให้เจ้าโอเลี้ยงช่วยบอกใบ้หวยให้โดยส่วนใหญ่แล้วจะนำตัวเลขด้วยจดตัวเลขลงกระดาษหลังจากนั้นก็ให้เจ้าโอเลี้ยงทำการข้ามกระดาษขึ้นมาจำนวน 3 ใบแล้วนำไปซื้อเลข

        ซึ่งหลายคนที่ทำวิธีการนี้เมื่อได้เลขไปแล้วก็ถูกหวยกันเป็นจำนวนหลายรายเลยทีเดียวและนับตั้งแต่มีคนมาขอแลกกับเจ้าโอเลี้ยงนั้นก็มีการถูกหวยกันติดต่อหลายงวดจนทำให้เจ้าโอเลี้ยงมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วจังหวัดอ่างทองเรียกได้ว่าในตอนนี้นั้นเจ้าโอเลี้ยงนั้นเป็นนกเอี้ยงที่มีคนสนใจมาเยี่ยมชมเป็นอย่างมาก

            ซึ่งในวันเดียวกันนั้นเองนักข่าวได้เห็นว่ามีหญิงสูงอายุคนหนึ่งเดินทางมาที่กรมของโต้งเลี้ยงพร้อมกับนำกล้วยน้ำว้าและส้มเขียวหวานมาให้เจ้าโอเลี้ยงด้วยโดยทางหญิงชราคนดังกล่าวนั้นบอกว่าเมื่องวดที่แล้วจะโอนเพิ่มให้เลขเด็ดไปและเธอนั้นถูกเลขท้าย 3 ตัวจึงได้นำของมาให้เจ้าโอเลี้ยงเพื่อเป็นการตอบแทนนั่นเองซึ่งในครั้งนี้เจ้าโอเลี้ยงก็ได้มีการให้เลขเด็ดหญิงชราคนดังกล่าวไปอีกเช่นเคย

กำลังใจจากคนญี่ปุ่นส่งถึงคนไทย  ด้วยการปั้นตุ๊กตาหิมะโดเรม่อนสวมแม็ก

           เมื่อวันที่ 25 เดือนมกราคม ปี พ.ศ. 2564  ในโลกของสังคม Social Media นั้นได้มีการแสดงภาพซึ่งถูกโพสต์มาจากประเทศญี่ปุ่นโดยข้อความภาพดังกล่าวนั้นเป็นภาพของคนญี่ปุ่นที่ถ่ายร่วมกับตุ๊กตาโดเรม่อนซึ่งมีขนาดใหญ่มากโดยตุ๊กตาโดเรมอนนั้นจะมีลักษณะสวมใส่หน้ากากอนามัยอีกด้วยที่สำคัญนอกจากจะมีตุ๊กตาโดเรมอนแล้วภายในภาพเรายังเห็นข้อความซึ่งเป็นภาษาไทยโดยข้อความดังกล่าวระบุเอาไว้ว่าอย่ายอมแพ้นะ  

        สำหรับภาพดังกล่าวนั้นถูกแสดงขึ้นในเพจฮอกไกโด   Dairy   ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าชาวเมืองฮอกไกโดนั้นได้มีการส่งข้อความมาถึงประชาชนชาวไทยเพื่อให้กำลังใจให้คนไทยนั้นต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิคที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้นั้นเอง

   หลังจากที่ภาพนี้มีการเผยแพร่ออกไปก็ทำให้คนไทยที่เห็นภาพนี้ต่างก็รู้สึกประทับใจกับกำลังใจที่คนญี่ปุ่นส่งมาถึงคนไทยกันอย่างมากเลยทีเดียวนั่นแสดงให้เห็นว่าคนไทยและคนญี่ปุ่นนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน  หนึ่งในคนไทยที่อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นที่ได้มีการนำรูปภาพดังกล่าวไปโพสต์ในเพจฮอกไกโดไดอารี่ได้มีการระบุว่าโดยปกติแล้วในทุกๆปีในเมืองฮอกไกโด 

            ที่ตรงบริเวณที่ว่าการ ชิปปุเบทสึ  เมื่อถึงคราวช่วงประมาณปลายปีจนถึงต้นเดือนมกราคมจะเป็นช่วงที่มีหิมะตกหนักมากและในช่วงนี้เองชาวบ้านของเมืองดังกล่าวจะมีการปั้นตุ๊กตาขึ้นมาซึ่งเป็นตุ๊กตาขนาดใหญ่เอามาไว้บริเวณที่ว่าการเมืองโดยในปีนี้เน้นการปั้นตุ๊กตารูปโดราเอมอนใส่หน้ากากอนามัยอื่นก็มีการปั้นแต่รูปปั้นก็จะมีการเปลี่ยนตัวตุ๊กตาแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในช่วงเวลานั้นว่าบ้านเมืองกำลังเกี่ยวพันกับสถานการณ์ในรูปแบบไหนนั่นเอง

         ในปีนี้ไม่ว่าจะเป็นประเทศญี่ปุ่นหรือแม้แต่ประเทศไทยหรือทุกประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาการระบาดของไวรัส covid ซึ่งทุกประเทศจะต้องมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อของไวรัสดังนั้นในปีนี้ทางประเทศญี่ปุ่นจึงมีการปั้นตุ๊กตาโดเรม่อนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดีสวมใส่หน้ากากอนามัย

          และแน่นอนว่าด้วยที่คนไทยนั้นเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นในแต่ละปีเยอะมากเรียกได้ว่าถ้าใครเคยไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นจะเห็นได้ว่างั้นตู้ขายตั๋วรถไฟอัตโนมัติก็ยังมีเวอร์ชั่นเป็นภาษาไทยให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถที่จะซื้อตั๋วได้ดังนั้นสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าคนไทยและคนญี่ปุ่นนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันซึ่งการปั้นตุ๊กตาโดเรม่อนใส่หน้ากากอนามัยนี้จึงมีการเขียนข้อความแสดงความให้กำลังใจคนไทยว่าอย่ายอมแพ้กับการระบาดของไวรัส  นับได้ว่านี่คือความรู้สึกดีๆที่คนไทยและคนญี่ปุ่นมีการส่งถึงกัน 

 

สนับสนุนโดย  แทงหวยออนไลน์ไม่มีขั้นต่ำ