หากการชุมนุมยังยึดเยื้ออาจจะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจ

             จากสถานการณ์ในขณะนี้ที่ประเทศไทยกำลังมีกลุ่มนิสิตนักศึกษาพากันออกมารวมตัวประท้วงเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลนั้นมีการยุบสภาและแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญซึ่งการออกมาชุมนุมนั้นได้มีการออกมาชุมนุมประมาณ 3-4 วันแล้วถึงแม้ว่าการชุมนุมที่นิสิตนักศึกษาออกมารวมกันจะเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย ไม่มีการทำลายทรัพย์สินเหมือนกับการชุมนุมก่อนๆที่ผ่านมารวมถึงไม่มีเหตุรุนแรงอะไรเลยแต่การที่กลุ่มนิสิตนักศึกษาออกมาเรียกร้องพากันมาชุมนุมในช่วงประมาณ 15:00 น เป็นต้นไปและสิ้นสุดการชุมนุมตั้งแต่ 20:00 น. เป็นต้นไป

              ดังนั้นในช่วงเวลาดังกล่าวส่งผลให้บริษัทที่อยู่ในพื้นที่ของการชุมนุมจำเป็นต้องปล่อยพนักงานกลับบ้านเร็ว และบางจุดมีการชุมนุมตรงบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าซึ่งสิ่งที่ตามมานั่นก็คือคนที่ไม่ได้เข้าร่วมการชุมนุมไม่สามารถเดินทางไปช๊อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าได้เพราะเกรงเกี่ยวกับเรื่องของความปลอดภัยและที่สำคัญมักจะมีปัญหารถติดตรงบริเวณที่ชุมนุมเป็นอย่างมาก

           และด้วยเหตุผลนี้เองทางด้านบริษัทในภาคเอกชนต่างๆจึงได้ออกมาพูดถึงสถานการณ์การชุมนุมในครั้งนี้ต่อนายกรัฐมนตรีโดยหวังว่าจะให้นายกรัฐมนตรีนั้นช่วยฟังเสียงของกลุ่มนักศึกษาที่พาก่อนออกมาชุมนุมให้พิจารณาข้อเสนอของกลุ่มนักศึกษาซึ่งอาจจะมีบางข้อเสนอที่รัฐบาลสามารถดำเนินการได้เช่นเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือแม้แต่การกำหนดให้มีการเลือกตั้งใหม่สิ่งเหล่านี้รัฐบาลสามารถทำได้แต่ถ้าเกิดรัฐบาลยังยืดเยื้อต่อไปกลุ่มนิสิตนักศึกษาก็จะทวีการรวมตัวกันมากขึ้นเพราะหลังจาก 4 วันที่มีการชุมนุมติดต่อกันจำนวนผู้ชุมนุมเลือกมากขึ้นและสถานที่ชุมนุมก็มีการขยายเพิ่มมากขึ้นก่อนหน้านี้จะมีการชุมนุมกันแค่ภายในเขตกรุงเทพฯตอนนี้มีการขยับขยายออกไปในปริมณฑลและต่างจังหวัดแล้ว

            ซึ่งแน่นอนว่าจุดที่นิสิตนักศึกษาพากันไปชุมนุมนั้นมักจะเป็นบริเวณที่มีผู้คนหนาแน่นเป็นที่สาธารณะและเป็นที่ที่มีบริษัทร้านค้าและห้างสรรพสินค้าดังนั้นเมื่อยังมีการชุมนุมอยู่ก็จะส่งผลเกี่ยวกับเรื่องของเจ้าของธุรกิจและพ่อค้าแม่ค้าได้รับผลกระทบจากการชุมนุมเพราะจะไม่สามารถขายสินค้าในบริเวณที่มีการชุมนุมได้รวมถึงเจ้าของกิจการก็ต้องปล่อยให้ลูกจ้างกลับบ้านเร็วขึ้นเพื่อความปลอดภัยของลูกจ้างทำให้ขาดรายได้และเสียเวลาแทนที่จะสามารถทำงานสร้างสินค้าขึ้นมาและนำไปจำหน่ายได้นั่นเอง

           อาจกล่าวได้ว่าถึงแม้ว่าการชุมนุมจะเป็นไปอย่างความสงบเรียบร้อยแต่ก็กระทบกับเศรษฐกิจภายในประเทศได้เช่นเดียวกันเพราะเมื่อมีการชุมนุมก็ทำให้คนไม่อยากมาจับจ่ายซื้อของตรงบริเวณที่มีการชุมนุมดังนั้นเมื่อไม่มีรายได้ตรงบริเวณที่มีการชุมนุมสิ่งที่ตามมาก็คือ ปัญหาเศรษฐกิจที่จะยังไม่สามารถแก้ไขให้ได้ดีได้และถ้ายังไม่ได้แก้ไขผลกระทบอาจจะไม่ใช่เฉพาะเศรษฐกิจภายในประเทศแต่อาจจะลุกลามไปถึงเรื่องเศรษฐกิจของต่างประเทศด้วยก็ได้             

 

สนับสนุนโดย    กลุ่มไลน์หวยฮานอย